Tweet

รีวิวโดรน 3DR Solo

เห็นข่าวว่าในไทยมีการนำ 3DR SOLO มาทำตลาดกันบ้างแล้ว วันนี้เลยถือโอกาสหา รีวิว 3DR SOLO มาให้อ่านกันนะครับ

เป็นที่รู้กันดีว่าโดรนนั้นทำให้การถ่ายภาพทางอากาศหรือการถ่ายวิดีโอมุมสูงเป็นเรื่องที่ไม่ยุ่งยากอีกต่อไป แต่การที่จะถ่ายให้ได้ภาพออกมาสวยนั้นอาจจะต้องอาศัยความชำนาญ เพราะเราทั้งต้องบินโดรนไปด้วยและต้องควบคุมกล้องของเราไปพร้อมๆกัน

นั่นคือที่มาของรุ่น Solo ที่ออกมาเพื่อการถ่ายภาพทางอากาศโดยเฉพาะ ซึ่งมาพร้อมกับโหมดการบินที่หลากหลายให้เลือกเพื่อที่คุณจะได้ภาพที่คมชัด นิ่ง เหมือนมืออาชีพ เราเลยได้ออกไปทดลองกับ 3DR Solo ดูว่ามันพอจะเทียบเคียงกับ DJI Phantom 4 หรือไม่

คุณสมบัติเด่น

โดรนรุ่นนี้มาพร้อมลูกเล่นมากมาย เรามาเริ่มดูกันนะครับว่ามันมีอะไรที่พอจะถือได้ว่าโดดเด่นเหนือคู่แข่งได้บ้าง

เริ่มจากอันแรกเลย Solo นั้นถือว่าเป็นโดรนตัวเดียวในตลาดตอนนี้ที่มาพร้อมคอมพิวเตอร์ 1GHz Cortex-A9 Linux จำนวนสองตัว โดยตัวหนึ่งจะอยู่ที่ตัวคอนโทรลเลอร์ และอีกตัวจะอยู่ในโดรน ซึ่งทำหน้าที่ประมวลผลการทำงานต่างๆ ซึ่งจะปล่อยให้ Pixhawk 2 ทำหน้าที่ในการจัดการให้โดรนลอยอยู่ในอากาศเพียงอย่างเดียว วิธีการนี้ทำให้การทำงานของมันเชื่อถือได้สูงกว่าว่าโอกาสในการที่เฟิร์มแวร์จะค้างนั้นมีน้อยมาก

ประเด็นต่อมาก็คือ โดรนรุ่นนี้จะไม่มีกล้องมาให้ด้วย คุณจะต้องไปหากล้อง GoPro มาใช้ร่วมกับมันและสามารถใช้ได้กับรุ่นดังต่อไปนี้คือ Hero 3, Hero 3+, Hero 4 แน่นอนว่าถือเป็นข้อเสียหากคุณไม่ได้มีกล้อง GoPro อยู่แล้ว เพราะนั่นหมายถึงคุณอาจจะต้องจ่ายเงินอีกราวๆ 15,000 – 18,000 บาท สำหรับการซื้อกล้อง GoPro อีกต่างหาก

ข้อดีของประเด็นนี้ก็คือคุณไม่จำเป็นต้องใช้กล้องที่มากับเครื่องตลอดไป คุณจะสามาระเปลี่ยนกล้องเป็นรุ่นที่ดีขึ้นเมื่อมีการออกวางตลาดรุ่นใหม่ๆ หรือหากคุณมีกล้อง GoPro อยู่แล้วคุณก็แค่หาโดรนมาพากล้องคุณให้ลอยไปลอยมาในอากาศเท่านั้น เพราะถ้าซื้อ DJI Phantom บางคนอาจจะคิดว่าแล้วกล้อง GoPro จะเอาไปทำอะไรดี

3DR นั้นไม่ใช่แค่ว่าเป็นการเอากล้อง GoPro มายีดกับโดรนแล้วบินไปถ่ายไปเท่านั้น จริงๆแล้วทาง บริษัทได้ทำงานร่วมกันกับทาง GoPro ในการสร้างระบบเชื่อมโยงเฉพาะขึ้นมา โดยเมื่อคุณเสียบสายจากโดรนเข้ากับ GoPro คุณสามารถควบคุมการตั้งค่าต่างๆได้ในระหว่างการบินจากตัว 3DR คอนโทรลเลอร์ได้เลย แม้อุปกรณ์ทั้งสองชิ้นจะขายแยกกัน แต่มันสามารถทำงานร่วมกันได้ดี

ประเด็นที่ 3 คือโดรนตัวนี้บินได้เร็วมาก ซึ่งดูเหมือนว่าทาง 3DR จะไม่ได้โอ้อวดอะไรบากในประเด็นนี้ แต่ Solo บินได้กว่า 88 กม/ชั่วโมง ถ้าเอาล้อทดสอบการบินออก นั่นหมายถึงว่ามันบินดได้เร็วกว่า Phantom 4 อยู่ 16 กม​/ชั่วโมงด้วยกัน และมันจะยังบินได้เร็วกว่านี้อีกหากบินตามลม หากคุณต้องการโดรนที่สามารถบินตามรถยนต์หรือมอเตอร์ไซค์ หรืออะไรที่วิ่งเร็วๆได้ทันแล้วละก็ Solo น่าจะเป็นคำตอบที่ดีตัวหนึ่ง

โหมดการบินอัตโนมัติของ Solo ประกอบด้วย Selfie, Cable Cam, Orbit และ Follow โดยต่างก็ถูกออกแบบมาเพื่อให้มันง่ายในการได้ภาพแบบมืออาชีพ โดรนจัดการเรื่องการบินทั้งหมด ทำให้คุณสามารถเน้นไปในเรื่องการถ่ายภาพให้ได้ดีที่สุด

อย่างในโหมด Cable Cam นั้นจะให้คุณเลือกจุดสองจุดให้โดรนบินไปมา เหมือนการบินไปตามสายเคเบิ้ลที่มองไม่เห็น ในระหว่างนั้นคุณก็จะมีหน้าที่ในการควบคุมทิศทางของกล้องเพื่อถ่ายภาพที่คุณต้องการ

ส่วนใน Orbit โหมด ซึ่งจะเป็นการกำหนดให้โดรนบินเป็นวงกลมวงใหญ่รอบๆจุดที่คุณกำหนด ส่วนโหมด Follow Me ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่ามันจะทำอะไร สำหรับโหมด Selfie นั้นโดรนจะโฟกัสกล้องมายังตัวคุณแล้วก็จะบินขึ้นบินกลับเพื่อสร้างภาพที่ดูตื่นตาขึ้นมา

ไม่เพียงเท่าที่กล่าวมาเท่านั้น Solo ยังมีโหมดการบินสำหรับนักบินที่ชำนาญพร้อมระบบการควบคุมแบบแมนน่วลหรือการช่วยบินบางส่วนอีกด้วย เดี๋ยวเราจะกล่าวถึงในภายหลัง สิ่งที่คุณควรรู้ก็คือ Solo มาพร้อมกับตัวเลือกการบินที่ครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นการบินแบบแมนน่วลทุกอย่างไปจนกระทั่งการบินแบบอัตโนมัติเต็มรูปแบบ บินแบบกดปุ่มก็จะทำให้คุณเลือกอะไรก็ได้

หากคุณกังวลเกี่ยวกับทำกล้อง GoPro คุณพังแล้วละก็ขอบอกว่าไม่ต้องกังวล ในบางประเทศขนาดว่า 3DR Solo บินตกหรือชนไม่ว่าตอนไหน โดยเป็นความผิดพลาดของโดรนในแง่เครื่องยนต์กลไกที่ไม่ใช่ความผิดของนักบินแล้วละก็ ทาง 3DR จะเปลี่ยนเครื่อง 3DR เครื่องใหม่ให้ทันทีแล้วก็จะให้คูปองไปแลกซื้อกล้อง GoPro ตัวใหม่อีกด้วย ทั้งนี้เพราะข้อมูลการบินทุกอย่างจะถูกบันทึกไว้ในกล่องดำที่อยู่บนเครื่อง ดังนั้นความผิดพลาดต่างๆจะถูกบันทึกไว้เพื่อรองรับการพิสูจน์อยู่แล้ว

 

ความเนี้ยบและความทนทานของเครื่อง

3DR Solo นั้นถือว่าเป็นโดรนที่ได้รับการผลิตประกอบมาอย่างดีที่สุดเท่าที่เราได้เจอมา แขนโดรนนั้นแข็งแรงมาก ใบพัดทำจากไนลอนเสริมใยแก้ว ขาตั้งก็แข็งแรงและจะเด้งเพียงเล็กน้อยหากบินลงแรงๆ โดยมันพร้อมจะปกป้องเจ้า Gimbal และกล้อง GoPro ของคุณในกรณีที่มันบินตกลงมา

ส่วนความทนทานก็ต้องขอบอกว่ายอดเยี่ยมจริงๆ เราได้บังเอิญบินไปชนต้นไม้ถึงสองครั้ง ทุกๆครั้งดูเหมือนมันจะเอาตัวรอดได้ดี โดยครั้งแรกตอนบินเข้าไปในพุ่มไม้ ใบพัดทั้งสี่อันพัง แต่อย่างอื่นก็ไม่มีอะไรเสียหายแม้จะตกลงมาถึงพื้นจากความสูงราว 12 เมตรก็ตาม

ครั้งที่สอง Solo บินผ่านกิ่งไม้สองสามกิ่ง หั่นกิ่งไม้ไปบางส่วน หมุนตัวสองสามที แต่ก็สามารถตั้งตรงได้อีกแล้วก็สามารถยกตัวเองกลับมาได้อีกครั้งก่อนแตะพื้น คราวนี้จะพบว่าใบพัดไม่ได้เสียหายแต่อย่างใด และสามารถบินได้ต่อไปอย่างปกติสุข

จากเหตุการณ์ไม่คาดฝันสองเหตุการณ์นี้ ถือว่าเป็นตัวบ่งขี้ได้ชัดเจนว่า Solo นั้นเป็นของเล่นที่ทนทานทายาท

อายุแบตเตอร์รี่ ระยะการบิน และเวลาในการชาร์ช

แบตเตอร์รี่ของ 3DR Solo ตัวนี้เป็น ลิเธียมไอออน ขนาด 5,200 mAh 14.8Vdc ซึ่งจะสามารถบินได้ราว 25 นาทีโดยไม่มีกล้อง หากใส่กล้องเข้าไปด้วยจะบินได้ราว 20 นาที จากการทดสอบของเราพบว่าตัวเลข 20 นาทีนั้นถือเป็นตัวเลขกลางๆ หากไม่มีการบินผาดโผนมากนัก

โดยเราสามารถบินพร้อมกล้อง GoPro ได้ราวๆ 22 นาที หากเป็นการบินแบบธรรมดาแบบวนเวียนไปมา แต่หากบินซิ่ง ผาดโผนแล้วละก็ มันจะทำได้ราวๆ 15 – 18 นาที หลังจากนั้นก็ต้องรอการชาร์ชประมาณ 1 ชั่วโมง 35 นาที เราจึงขอแนะนำว่าควรจะซื้อแบตเพิ่มหากต้องการบินเพื่อการถ่ายภาพแบบจริงจัง

สำหรับระยะทางการบินละก็ Solo จะมีระยะทางบินไกลสุดประมาณ 800 เมตร ซึ่งถือว่าไม่ใช่ตัวเลขที่มากนัก เพราะถือว่าต่ำกว่าครึ่งเมื่อเทียบกับ Phantom 4 แต่สำหรับการถ่ายภาพทั่วๆไปแล้วถือว่าเพียงพอ เจ้าโดรนตัวนี้เริ่มจะมองเห็นได้ยากหลังบินห่างออกไปราว 500 เมตร แต่ภาพวิดีโอที่ส่งมาในความละเอียด 720p HD นั้นยังคงคมชัดหากบินในที่โล่ง

แต่หากคุณมองไม่เห็นโดรน ภาพก็อาจจะมีติดๆขัดๆบ้าง หรือหายไปเร็วขึ้น ข่าวดีก็คือ หากคุณสูญเสียการติดต่อ โดรนตัวนี้ก็จะกลับมายัง Home โดยอัตโนมัติ และคุณสามารถเริ่มควบคุมมันได้อีกครั้งเมื่อคุณอยู่ในระยะที่จะรับสัญญาณกันได้อีก

การบิน การควบคุม และระบบอัตโนมัติ

เมื่อพูดถึงในแง่ของการบินแล้ว ต้องขอบอกว่า Solo นั้นบินง่าย ตรงไปตรงมา กว่าตัวไหนๆเท่าที่เราได้พบเจอมา เรามีเหตุผลประกอบสองประการด้วยกันคือ อันแรกตัวคอนโทรลเลอร์นั้นถูกผลิตขึ้นมาให้เหมือนการเล่นวิดิโอเกมส์ ทำให้คนทั่วไปไม่รู้สึกว่ามันซับซ้อนเมื่อมาเจอรีโมทเครื่องบังคับวิทยุทั่วไป

ประเด็นที่สองก็คือ โหมดการบินอัตโนมัติมากมายที่จะช่วยให้คุณบินในรูปแบบต่างๆ ที่ปกติแล้วคุณต้องได้รับการฝึกฝนมาอย่างดี แต่กับ Solo แล้วถือว่าบินได้ง่ายมาก

เรามาเริ่มต้นดูกันตรงตัวคอนโทรลเลอร์กันเลยนะครับ ซึ่งจะไม่เหมือนคอนโทรลเลอร์ทั่วไปที่มีปุ่มต่างๆมากมายเต็มไปหมด ตัวคอนโทรลเลอร์ของ Solo นั้นมีปุ่มควบคุมไม่กี่อย่างเท่านั้น โดยจะมี Joystick สองอันสำหรับการควบคุมทิศทางการบินต่างๆ และมีปุ่ม Fly สำหรับการบินขึ้นและบินลงอัตโนมัติ

มีปุ่ม Return to Home แล้วก็หน้าจอเล็กๆสำหรับแสดงสถานะแบตเตอร์รี่และข้อมูลการบินต่างๆ และมาพร้อมปุ่มสำหรับควบคุมมุมกล้อง นอกจากนี้แล้วยังมีปุ่มอีกสองปุ่มที่สามารถกำหนดค่าเองได้ โดยอาจจะตั้งให้เป็นปุ่มสำหรับการบินโหมดอัตโนมัติต่างๆอย่าง Cable Cam หรือ Orbit เป็นต้น และที่ผมชอบที่สุดก็คงเป็นปุ่ม Pause หรือปุ่มหยุดชั่วคราว ซึ่งทำหน้าที่เหมือนเป็นการใส่เบรกกลางอากาศที่จะทำให้โดรนบินนิ่งๆอยู่ตำแหน่งนั้นๆทันที

การตั้งค่าอื่นๆรวมถึงการตั้งค่าของ GoPro นั้นจะสามารถทำได้ด้วย Mobile App ซึ่งทำให้ตัวคอนโทรลเลอร์หลักนั้นไม่สับสนวุ่นวายมากนัก ผลเสียก็คือ คุณจะบินได้ก็ต่อเมื่อคุณเชื่อมต่อกับ Smartphone หรือ Tablet เท่านั้น ซึ่งเป็นอีกอุปกรณ์หนึ่งที่ตุณต้องคอยเป็นกังวลว่าแบตจะหมดไปด้วยหรือไม่

และจากการที่คุณต้องทำให้หน้าจอสว่างที่สุดถือเป็นปัญหาอย่างหนึ่ง การบินสองสามครั้งของเราต้องเลิกกลางคันเพราะแบตเตอร์รี่บนสมาร์ทโฟนหมด ดังนั้นหากทุกอย่างมีแบตต์เต็มรับรองได้ว่าคุณจะบินสนุกแน่นอน

การบินในโหมด Cable Cam, Selfie และ Follow Me นั้นทำได้ง่ายและคุ้นชินได้อย่างรวดเร็ว แต่การลองบินในโหมด Orbit นั้นสำหรับเราแล้วเหมือนจะยากนิดนึง เราเกือบจะชนหลายครั้ง มีอยุ่ครั้งหนึ่งเราตั้งค่ารัศมีใหญ่เกินไป และบินต่ำเกินไป ทำให้โดรนต้องบินไปจ้ะเอ๋กับต้นไม้ใกล้ๆ

แน่นอนว่าประเด็นนี้คือข้อผิดพลาดของตัวนักบินเอง ถึงตอนนี้ก็อยากให้ทาง Solo ใส่ระบบหลบหลีกสิ่งกีดขวางมาด้วยก็คงจะดี เหมือนที่ทาง DJI Phantom 4 หรือ Yuneec Typhoon H มีมาให้

บทสรุป

แม้ว่าทุกอย่างดูเหมือนจะไม่สมบูรณ์แบบเมื่อเทียบกับเจ้าตลาดอย่าง Phantom 4 แต่ข้อดีของ Solo นั้นถือว่ามากกว่าข้อด้อยอยู่หลายขุม ตัวโดรนเองนั้นผลิตมาอย่างเนี้ยบและทนทานทายาท การเรียนรู้ที่จะบินก็ไม่ยากลำบากสำหรับนักบินหน้าใหม่ และตัวโดรนเองก็พร้อมที่จะได้รับการอัพเกรดอะไรต่างๆเพิ่มเติมได้

ประเด็นของ GPS และระยะในการบินน่าจะดีกว่านี้ แต่ประเด็นนี้ก็ไม่ถึงกับทำให้มันไม่น่าใช้ซะทีเดียว โหมดการบินอัตโนมัติของ 3DR Solo นั้นจะทำให้คุณลืมจุดด้อยต่างๆไปเลย

หรือจะพูดง่ายๆ ก็ต้องขอบอกว่ามันเป็นโดรนสำหรับทุกคน ไม่ว่าจะเป็นนักบินหน้าใหม่ที่จะประทับใจกับการออกแบบตัวคอนโทรลเลอร์ให้น่าใช้ ไปจนถึงนักบินที่เชี่ยวชาญที่สามารถเล่นลูกเล่นต่างๆที่ Solo ให้มามากมาย และแน่นอนว่าแม้หน้าตาจะดูธรรมดา แต่ภาพที่ได้มานั้นรับรองว่าน่าประทับใจยิ่ง

ระบบการบินอัตโมมัติรูปแบบต่างๆของ 3DR นั้นจะทำให้การถ่ายภาพวิดิโอทำได้โดยง่าย ไม่ว่าคุณจะเป็นใครและมีเหตุผลอะไรในการเลือกหาโดรน รับรองว่า Solo ต้องเป็นตัวเลือกที่ดีตัวนึงแน่ แต่หากคุณยังไม่มีกล้อง GoPro การตัดสินใจก็อาจจะซับซ้อนขึ้นอีกหน่อย

สำหรับราคา 3DR Solo ตอนนี้ในไทยเริ่มต้นที่ประมาณ 30,000 บาท ไม่รวมกล้อง ลองติดต่อตัวแทนจำหน่ายใกล้บ้านของท่านดูนะครับ

เรียบเรียงจาก digitaltrends.com