Tweet

รีวิว iRobot Roomba 880 หุ่นยนต์ดูดฝุ่น

สมัยก่อนหากพูดถึงเครื่องดูดฝุ่นก็จะหมายถึงเครื่องใช้ในบ้านชนิดหนึ่งที่มีเสียงดังแล้วต้องใช้แรงคนเดินตามแล้วถูเครื่องมือไปกับพื้นทุกซอกทุกมุม แต่สมัยนี้การดูดฝุ่นนั้นไม่ใช่เรื่องยุ่งยากอีกต่อไป มันวิ่งไปวิ่งมาเองโดยอัตโนมัติ แถมเวลาพลังงานในตัวมันใกล้จะหมด มันวิ่งไปหาปลั๊กไฟเองซะด้วย

ด้วยเทคโนโลยีที่ก้าวหน้ามากแล้วในปัจจุบัน เราสามารถบรรจุคอมพิวเตอร์ขนาดจิ๋วลงไปในอุปกรณ์ต่างๆ ด้วยความสามารถอันล้นเหลือเกิดขนาดของมัน ทำให้มันทำอะไรได้อย่างน่าทึ่ง ราคาก็ไม่แพง ทำให้คนทั่วไปสามารถจับต้องได้

iRobot Roomba 880 ถือเป็นหุ่นยนต์ดูดฝุ่นชั้นแนวหน้าที่ได้รับความนิยมจากทั่วโลก เรามาดูกันนะครับว่ามันจะทำงานได้สมราคาค่าตัวหรือไม่เมื่อเทียบกับเครื่องดูดฝุ่นธรรมดา

ตัวอะไรวิ่งไปวิ่งมา

ถ้าเพื่อนมาเยี่ยมบ้านแล้วไม่เคยพบเห็นหุ่นยนต์ดูดฝุ่นมาก่อน ก็คงถามเราแบบนั้นแน่ นั่นเพราะ Roomba นั้นดูภายนอกแล้วไม่เห็นเครื่องดูดฝุ่นที่เราคุ้นเคยเลยซักนิด เครื่องรูปร่างกลมๆนี้มีขนาดเท่าพวงมาลัยรถยนต์ และความสูงแค่เพียงแก้วกาแฟเท่านั้น

ด้านบนสุดของเครื่องก็จะมีปุ่มอยู่ 4 ปุ่มและที่จับ โดยตรงกลางจะมีปุ่ม power เอาไว้สั่งงานให้มันเริ่มทำงาน และอีกสี่ปุ่มนั้นเอาไว้ตั้งนาฬิกา ตั้งเวลาทำความสะอาด สั่งให้มันกลับไปจอด หรือให้มันวนเวียนดูดฝุ่นเฉพาะจุด

การตั้งโปรแกรม

การตั้งโปรแกรมให้มันทำงานตามตารางเวลานั้นง่ายดายมาก แค่เพียงเลือกวัน แล้วใส่เวลาเข้าไป แล้วก็กดปุ่ม OK ก็เป็นอันเรียบร้อย ตราบเท่าที่เราตั้งนาฬิกาให้ตรงเวลา เจ้าตัว Roomba ก็จะเริ่มออกไปผจญภัย ทำความสะอาดทั่วบ้าน ก่อนจะกลับมาจอดที่รังเดิมของมันเมื่องานมันเสร็จหรือแบตเตอร์รี่หมด

ในระหว่างการทดสอบ พบว่ามีอยู่บ้างที่เกิดปัญหาเล็กน้อยเกี่ยวกับนาฬิกา นั่นก็คือตอนเกิดไฟกระชาก และอีกครั้งก็ตอนที่มันไปติดอยู่ในซอกแล้วแบตเตอร์รี่หมด มันจะจำเวลานาฬิกาไม่ได้เมื่อเอามาชาร์ชใหม่ซึ่งก็ลืมสังเกตเวลาบนตัวเครื่อง กลายเป็นว่ามันเริ่มทำงานเอาตอนเที่ยงคืน ทุกคนในบ้านเลยแตกตื่นกันใหญ่

Roomba 880 นั้นสามารถทำความสะอาดได้หลายๆห้องจากการชาร์ชไฟเพียงครั้งเดียว และจะใช้เวลาสูงสุดในแต่ละห้องราว 25 นาทีก่อนที่จะย้านไปห้องต่อไป

ผนังจำลองนั้นจะมีมาให้แล้วในกล่อง มันจะทำหน้าที่เป็นเหมือนผนังจำลอง โดยจะป้องกันไม่ให้ตัวหุ่นยนต์ดูดฝุ่นเปลี่ยนห้องจนกว่ามันจะทำงานเสร็จเรียบร้อยในห้องแรก และยังช่วยให้มันวิ่งกลับไปหาฐานชาร์ชมันอีกด้วย

เมื่อมันทำความสะอาดห้องเสร็จ หรือถุงขยะในเครื่องเต็ม หรือแบตเตอร์รี่ใกล้หมด มันก็จะวิ่งกลับไปยังรังชาร์ชของมันโดยอัตโนมัติ

การทำความสะอาด

อาจจะผิดหวังนิดๆสำหรับการลองให้มันออกทำความสะอาดครั้งแรก เนื่องจากเจ้าหุ่นยนต์ทำความสะอาดนี้มันอาจจะทำความสะอาดได้ไม่ดีเท่ามนุษย์ด้วยเครื่องดูดฝุ่นธรรมดา แต่อย่าลืมว่าหุ่นยนต์ดูดฝุ่นนั้นถูกออกแบบมาให้ทำความสะอาดทุกวัน แทนที่จะทำความสะอาดบ้านสัปดาห์ละครั้ง

นั่นแสดงว่าการออกทำความสะอาดครั้งแรกอาจจะต้องใช้เวลาหน่อยเนื่องจากถุงขยะมันเล็ก และก็ต้องเอาไปเททิ้งหลายๆครั้ง

หลังจากมันทำความสะอาดไปซักสองสามวัน เราจะนำถุงขยะในเครื่องไปเทขยะทิ้งแค่ประมาณสัปดาห์ละครั้งหรือสองครั้งเท่านั้น ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับลักษณะของพื้นและชนิดของพื้น ในกรณีที่เป็นบ้านขนาดสองห้องนอนทั่วไป ก็จะต้องจัดการกับถุงขยะราวสัปดาห์ละครั้งเท่านั้น

ตัวแปรงหมุนและเครื่องดูดจะทำงานอย่างแข็งขันแม้จะเป็นมุมของห้องก็ตาม บางตำแหน่งที่ Roomba เข้าไม่ถึง รวมถึงบันไดบ้านหากเป็นบ้านสองชั้น เราอาจจะต้องทำความสะอาดเอง แต่โดยรวมแล้วถือว่ามันทำงานได้อย่างน่าประทับใจเป็นอย่างมาก

iRobot Roomba 880 ยังมาพร้อมรีโมท ซึ่งสามารถใช้มันในการสั่งการให้มันไปยังจุดใดจุดหนึ่งซึ่งอาจจะสกปรกมาก หรืออาจจะใช้สั่งการให้มันออกจากจุดอับ แต่โดยทั่วไปแล้วมันก็สามารถลอดเฟอร์นิเจอร์ต่างๆได้โดยสบายๆอยู่แล้ว

หากแปรงทำความสะอาดนั้นดูดกระดาษหรือสายไฟติดเข้าไปแล้วละก็ ส่วนที่ทำการดูดนั้นสามารถถอดออกได้โดยง่ายด้วยการไขสกรูไม่กี่ตัว สองนาทีก็แก้ไขได้แล้ว

การบำรุงรักษา

ทั้งหัววัดการตก ถุงขยะ ใส้กรองอากาศ และล้อหน้านั้นจำเป็นต้องได้รับการบำรุงรักษาสม่ำเสมอ โดยทางบริษัทแนะนำว่าให้ทำอาทิตย์ละครั้ง แต่คุณอาจจะทำน้อยกว่านั้นก็ได้

ราคา iRobot Roomba 880

ราคาของตัวนี้ถือว่าแพงที่สุดในตลาดแล้ว ราคาอยู่แถวๆ 30,000 บาท ซึ่งก็นับว่าแพงเอาการ ยี่ห้ออื่นๆที่ทำตลาดอยู่อาจจะอยู่แถวๆ 10,000 – 15,000 บาท แต่ความสามารถก็ตามราคาละครับ

บทสรุป

จะว่าไปแล้ว iRobot Roomba 880 นั้นถือว่าเป็นเครื่องดูดฝุ่นที่ดีกว่าที่คาด เนื่องจากมันทำงานเป็นหุนยนต์ หน้าที่มันคือทำความสะอาดพื้นแล้วกลับมาจอดที่ฐาน ไม่ต้องบำรุงรักษาอะไรมาก ทำเท่าที่จำเป็น

แต่ดูเหมือนมันจะมีชีวิตหรือเปล่าไม่แน่ใจ พอลองใช้มันแล้วเหมือนว่าเราจะคอยสอดส่องดูแลมันเหมือนเป็นสัตว์เลี้ยงปานนั้น ถ้ามันไปติดแหง็กอยู่ที่มุมไหน หรือไปรุมรันพันตูอยู่กับอะไรแล้วมันไปต่อไม่ได้ เราก็จะรู้สึกสงสารมันแทนที่จะหงุดหงิดเหมือนกรณีใช้เครื่องดูดฝุ่นธรรมดา เลยทำให้เราเป็นคนที่พยายามทำให้พื้นโล่งๆ ซึ่งถือเป็นสิ่งดีไปด้วย

ส่วนความคุ้มค่าเรื่องราคานั้น ก็ขึ้นอยู่กับว่าคุณไม่ชอบการใช้เครื่องดูดฝุ่นแค่ไหน รุ่นที่ถูกกว่านั้นอาจจะราคาใกล้เคียงกับเครื่องดูดฝุ่นทั่วไป แต่โดยรวมน่าจะถูกกว่าจ้างคนมาดูดฝุ่นพื้นห้องเป็นแน่

สำหรับคนที่ขยัน ห้องเนี้ยบและสะอาดตลอดเวลา เครื่องนี้อาจจะไม่มีประโยชน์มากนัก แต่สำหรับมนุษย์ไม่ขยันอย่างเราๆ คิดว่ามันสมราคาจริงๆ กำลังคิดอยู่ว่ามีบ้านสองชั้นนี่ คงจะต้องซื้อเพิ่มอีกตัว