ล่าสุด

นิวยอร์คจะเปลี่ยนตู้โทรศัพท์สาธารณะเป็นจุดปล่อยสัญญาณ Free Wi-Fi

นิวยอร์คจะเปลี่ยนตู้โทรศัพท์สาธารณะเป็นจุดปล่อยสัญญาณ Free Wi-Fi

หลังจากที่เทคโนโลยีการสื่อสารไร้สายพัฒนาขึ้นมาเป็นอย่างมาก ทำให้ความต้องการในการใช้โทรศัพท์สาธารณะนั้นลดลงไปอย่างมาก เนื่องจากแทบทุกคนจะมีโทรศัพท์มือถือเป็นของตนเองอยู่แล้ว หรือแม้เกิดภาวะฉุกเฉินแบตหมด ก็ยังสามารถหยิบยืมจากคนข้างๆมาโทรได้เพราะทุกคนมีโทรศัพท์ใช้และค่าโทรไม่แพงเหมือนในอดีต เป็นผลให้เมืองนิวยอร์คเริ่มเปลี่ยนโทรศัพท์สาธารณะมาเป็นจุดปล่อยสัญญาณฟรีไวไฟแทน

โดยในเดือนมกราคม 2559 นี้ ทางเมืองนิวยอร์คจะเริ่มปรับเปลี่ยนเครื่องในตู้โทรศัพท์สาธารณะจำนวนนับพันเครื่องให้เป็นจุดปล่อยสัญญาณ Free Wi-Fi โดยคาดว่าภายในเดือนกรกฏาคมนี้จะสามารถเปลี่ยนได้ถึง 500 จุด และท้ายที่สุดจะเปลี่ยนได้หมดทั้ง 7,500 จุด

โครงการนี้มีชื่อเรียกว่า LinkNYC ซึ่งดำเนินงานโดยบริษัท CityBridge ซึ่งใช้เงินลงทุนกว่า 7,000 ล้านบาท ($200 million) ทาง CityBridge กล่าวว่า Wi-Fi ดังกล่าวจะส่งสัญญาณเร็วถึง 1,000 Mbit/s ซึ่งเร็วกว่าระบบสื่อสารไร้สายทั่วไปถึง 100 เท่า

ผู้ใช้ไม่ต้องเสียเวลาดูโฆษณาก่อนที่จะลอกอินเข้าสู่ระบบเหมือนที่เราเคยเจอ อุปกรณ์นี้จะทำให้เราเชื่อมโยงเล่นเน็ตได้โดยอัตโนมัติหลังจากที่เราได้ลงทะเบียนครั้งแรกไปแล้ว จุด Wi-Fi ที่มาจากตู้โทรศํพท์ดังกล่าวจะมีเสาสัญญาณอยู่บนตู้ ครอบด้วยจอภาพอิเลคทรอนิคส์ในแต่ละด้านเพื่อแสดงโฆษณา และยังมี tablet แอนดรอย์ติดตั้งไว้ให้เพื่อให้คนสามารถเล่นเว็บและโทรออกผ่านเน็ตได้ด้วย

ในระยะสั้นแล้วระบบ Free Wi-Fi นั้นจะช่วยให้ค่ายมือถือลดความคับคั่งของการใช้งานไปได้ส่วนหนึ่ง แต่จะว่าไปแล้วการครอบคลุมของสัญญาณนั้นอาจจะไม่ดีนักเนื่องจากมีตึกสูงเป็นจำนวนมาก และในอนาคตระยะยาวแล้วอาจจะไม่สดใสนักเนื่องจาก บริษัท Comcast กำลังติดตั้งจุดเชื่อมต่อสัญญาณในลักษณะนี้ให้กับลูกค้าของตัวเองอีกด้วย

ด้านแผนกไอทีและการสือสารของนิวยอร์คคาดหวังว่าโครงการนี้จะช่วยให้การเข้าถึงอินเตอร์เน็ตของประชากรสูงขึ้น เนื่องจากปัจจุบันราว 27% ของครัวเรือนนิวยอร์คยังไม่มีอินเตอร์เน็ตบรอดแบรนด์ที่บ้าน หลายๆเมืองก็พยายามติดตั้ง Free Wi-Fi ให้พลเมืองเช่นกัน แต่ไม่ได้รับการตอบรับที่ดีนักเนื่องจากความเร็วต่ำ และหลายที่ต้องดูโฆษณากันจนตาแฉะก่อนที่จะเริ่มใช้งานได้

ข่าวจาก Wall Street Journal

Advertisment

Leave a comment