ล่าสุด

รีวิว โดรน DJI Phantom 3 Professional Part 2

รีวิว โดรน DJI Phantom 3 Professional Part 1

สองสามวันก่อนเราได้รีวิว โดรน DJI Phantom 3 Professional กันไปแล้วนะครับ วันนี้เรามาดูต่อในเรื่องประสิทธิภาพการใช้งานของโดรนตัวนี้กันนะครับ

คราวที่แล้วเราได้พูดถึงการปรับปรุงจุดต่างๆของ DJI Phantom 3 Professional โดยที่ยังไม่ได้พูดถึงอุปกรณ์หลักที่ทำให้รุ่นนี้ต่างจาก Phantom 3 Advanced ซึ่งก็คือกล้องบันทึกวิดีโอขนาด 4K นั่นเอง

ถือเป็นครั้งแรกของโดรนราคาเท่านี้ที่ใส่กล้องระดับ 4K จึงไม่เป็นที่น่าสงสัยเลยว่าคุณภาพของวิดิโอจากรุ่นนี้ล้ำหน้ารุ่นก่อนๆ รวมถึงคู่แข่งไปหลายขุม

ภาพวิดิโอขนาด 4K นั้นสามารถบันทึกได้ถึง 30 เฟรมต่อวินาที ซึ่งถือว่าจะได้ภาพที่น่าประทับใจเป็นอย่างยิ่งสำหรับนักถ่ายภาพสมัครเล่นอย่างเราๆ และสำหรับนักถ่ายภาพมืออาชีพแล้วถือว่าดีใช้ได้ เกือบจะพูดได้ว่าภาพที่ได้มีคุณภาพที่จะเอาไปออกอากาศทีวีได้เลย

วิดิโอ 4K ของกล้องนี้มีบิทเรทสูงสุดอยู่ที่ 60 Mbps ซึ่งสูงกว่าที่ทาง youtube กำหนดแนวทางสำหรับวิดีโอ 4K อยู่นิดหนอย แต่อาจจะไม่ถึงขึ้นเอาไปถ่ายหนังได้ แต่ด้วยราคานี้คงหาคุณภาพที่ดีกว่านี้ไม่ได้อีกแล้ว

นอกจากประเด็นความละเอียดของกล้องที่ถือว่าดีขึ้นมากแล้ว ภาพถ่ายโดยรวมก็ยังดีขึ้นอีกด้วย หน้ากล้องขนาด f2.8 หมายถึงการสามารถถ่ายภาพในบริเวณที่มีแสดงน้อยได้ดีกว่ากล้องรุ่นก่อนๆของ DJI ดังนั้นคุณจึงสามารถออกมาปล่อยโดรนบินตอนเย็นๆแล้วได้ภาพตอนดวงอาทิตย์ตกอย่างสวยๆได้

แต่สิ่งที่ถือว่าเปลี่ยนไปอย่างมากก็คงจะเป็นเรื่องของเลนซ์ตาปลาที่เคยเจอใน Phantom 2 Vision+ นั้นถูกแทนที่ด้วยเลนซ์ที่ให้ความรู้สึกประมาณ 20 มม แต่นอนว่ามุมกว้างขนาด 94 องศา เหมือนจะดูแคบไปหน่อยเมื่อเทียบกับเมื่อก่อน แต่วิดิโอที่ได้ดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น ไม่จำเป็นต้องปรับแต่งอะไรมากในช่วงการตัดต่อเพื่อแก้ไขปัญหาตาปลาอีก

หากคุณต้องการถ่ายวิดีโอที่มีการเคลื่อนที่เร็ว ก็อาจจะลดความละเอียดลงเหลือ 1080p หรือ 720p และบันทึกที่ความเร็ว 60 เฟรมต่อวินาที แฟนๆที่ชื่นชอบกีฬาผาดโผนอาจจะรู้สึกเซ็งๆกับการที่ไม่สามารถบันทึกภาพที่ความเร็ว 120 fps แล้วนำมาทำสโลโมชั่นแบบลื่นๆได้ แต่ 60fps ก็ถือว่าพอใช้ได้กับคนส่วนใหญ่

คนที่ชอบถ่ายภาพนิ่งก็อาจจะยินดีกับภาพขนาด 12 ล้านพิกเซล และจะยังสามารถถ่ายภาพนิ่งได้ในขณะที่กำลังถ่ายวิดีโออยู่ และยังจะสามารถถ่ายในโหมด RAW ได้อีกด้วยเพื่อเอามาแก้ไขในภายหลัง

สิ่งที่ดูเหมือนจะเป็นข้อจำกัดนอกจากอายุแบตแล้วละก็คงจะเป็นขนาดของ เมมโมรี่การ์ดขนาด 16GB ที่ให้มา มันอาจจะเพียงพอที่จะบันทึกภาพวิดิโอขนาด 4K ในช่วงที่ออกบินได้ราว 23 นาที แต่ก็ถือว่าเฉียดฉิว เนื่องจากการบันทึกวิดีโอขนาด 4K แบบ 30pfs ในระยะเวลา 1 นาทีนั้นใช้พื้นที่ประมาณ 450MB ดังนั้นเราอาจจะทำการโหลดภาพลงอุปกรณ์พกพาของเราระหว่างที่มันเชื่อมโยงอยู่กับตัวเครื่องบังคับ แต่นั่นก็หมายถึงว่าเครื่องเราจะต้องมีพื้นที่เหลือเพียงพอ ทั้งนี้ Phantom 3 สามารถรับเมมการ์ดสูงสุดที่ 64GB

แม้ว่าชื่อจะบ่งบอกว่าเป็น Phantom 3 Professional และฟังดูแล้วเหมือนจะเป็นโดรนสำหรับมืออาชีพก็ตาม แต่อาจจะมีบางประเด็นที่จริงๆแล้วหากมืออาชีพจะนำไปใช้แล้วอาจจะต้องมาพิจารณาอย่างละเอียดในแง่ประสิทธิภาพ เจ้า gimbal นั้นทำงานได้ดีในการทำให้ภาพวิดีโอนั้นนิ่ง แต่บ่อยครั้งที่มันโผล่ภาพขาตั้งหรือใบพัดมาด้วยเวลาหมุนกล้องเร็วๆ

phantom-3-pro-fly

อีกอย่างหนึ่งก็คือข้อจำกัดคือสามารถหมุนกล้องได้แค่ขึ้นลงเท่านั้น ไม่สามารถหมุนกล้องได้ แต่ถึงหมุนได้ก็จะกลายเป็นว่าจะเห็นขาตั้งโดรนอยู่ดี โดรนระดับมืออาชีพจริงๆอย่าง Inspire 1 นั้นจะมีขาที่ยืดหดได้ และสามารถให้คนนึงขับโดรน ส่วนอีกคนก็บังคับกล้องในเวลาเดียวกัน

หากคุณคิดว่าการขับนอกอาการจะยังไม่น่าจะสร้างความเสียหายให้กับโดนซักเท่าไหร่ โดรนรุ่นนี้คุณยังสามารถบินในอาคารได้อีกด้วยเพื่อเพิ่มโอกาสให้ชนโน่นชนนี่ได้อีก โดยปกติแล้วโดนรนจะใช้ระบบ GPS และ GLONASS (GPS ของรัสเซีย) ในการตรวจสอบตำแหน่งของตัวเองว่าอยู่ที่ไหน แต่ในกรณีกรณีการบินภายในอาคาร DJI ได้ติดตั้งระบบหัววัดที่จะสามารถติดตามตำแหน่งของตัวเองว่าห่างจากพื้นเท่าไหร่โดยการใช้ระบบโซน่าร์และข้อมูลภาพถ่าย

ถ้าคุณต้องทำอย่างนี้บ่อยๆแนะนำว่าอาจจะต้องซื้อการ์ดใบพัดของ DJI เพื่อปกป้องโดรนจากการปะทะเบาๆ พยายามอย่าเล่นโดรนในบ้าน เพราะมันจะทำให้คนหรือสิ่งของที่โดนใบพัดได้รับอันตรายสาหัสเอาได้ ไม่ว่าคุณจะบินในหรือนอกอาคาร ง่ายมากที่จะบินไปชนอะไรบางอย่าง แล้วจะทำลายโดรนราคาแพงของคุณที่ยากที่จะซ่อมแซม หรือเลวร้ายที่สุดคือไปทำอันตรายใครเข้า

หากคุณมีความรับผิดชอบเพียงพอ Phantom 3 Professional นั้นจะให้ความเพลิดเพลินกับคุณมาก ในขณะที่จริงๆแล้วมันถูกออกแบบมาเพื่อให้เป็นเครื่องมือในการถ่ายภาพทางอากาศ แต่มันก็จะให้ความสนุกในกรณีการบินเล่นในสวนไม่แพ้กัน คุณจะไม่เรียกมันว่าเป็นของเล่นเนื่องจากราคาของมัน แต่หากคุณสนุกกับการเล่นรถบังคับวิทยุมาแล้วละก็ โครนตัวนี้จะให้ประสบการณ์ที่เร้าใจยิ่งกว่า

จากการลองเล่นของเราในบ้าน พบว่ามีอุบัติเหตุเกิดขึ้นเพียงครั้งเดียวจากการลงจอดที่ไม่นิ่มนวลเท่าไหร่ ส่งผลให้ใบพัดสองใบแตะพื้น แต่ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องเปลี่ยนใบพัด ซึ่งถ้าต้องเปลี่ยนราคาก็พอดูทีเดียว ชิ้นส่วนอื่นๆก็มีราคาสูงเช่นกัน แต่จะว่าไปแล้วทุกชิ้นส่วนสามารถเปลี่ยนได้หมดหากจำเป็น ตัวอย่างเช่น คุณอาจจะซื้อ Phantom 3 Advanced ที่มีกล้องขนาด 1080p แล้วค่อยมาเปลี่ยนเป็นกล้อง 4K ในภายหลังก็ได้

เสียอย่างเดียวที่เราจะไม่สามารถเปลี่ยนกล้องที่ให้มาเป็นกล้อง GoPro ได้ เพราะกล้อง GoPro นั้นจะว่าไปแล้วเป็นที่ชื่นชอบในบรรดานักถ่ายภาพกีฬามาก และคุณภาพที่ได้นั้นดีกว่ากล้องของ DJI มาก

ยังมีคุณสมบัติเด่นๆของ DJI GO แอพอีกด้วยเมื่อคุณเริ่มชินกับการเล่นโดรนตัวนี้ ซึ่งการส่งสัญญาณสดๆจากกล้องที่ความละเอียด 720p นั้นเหมาะสำหรับคนที่ต้องการถ่ายทอดรายการสดๆ และความสามารถในการแก้ไขภาพหรือวิดีโอจากภายในแอพได้เลยและแชร์ออกไป คุณจึงไม่จำเป็นที่ต้องรอให้ถึงบ้านการแล้วค่อยทำ

ควรจะซื้อ DJI Phantom 3 Professional หรือเปล่า

หากคุณเป็นนักถ่ายภาพหรือวิดีโอทางอากาศและต้องการเครื่องมือในการเก็บภาพที่ความละเอียด 4K แล้วละก็ DJI Phantom 3 Professional ถือเป็นหนทางที่ต้นทุนต่ำที่สุดในการจะได้ทุกอย่างมาครบแล้วถ่ายภาพได้เลย

แต่หากคุณเป็นนักเล่นโดรนตัวจริง คุณก็อาจจะซื้อชิ้นส่วนต่างๆมาประกอบแล้วใส่กล้อง GoPro เข้าไปก็ได้ แต่หากคุณต้องการใช้อะไรง่ายๆแล้วละก็ DJI Phantom 3 Professional ก็ถือเป็นแนวทางที่ดีที่สุด

วิดีโอขนาด 4K จาก Phantom 3 Professional นั้นให้ภาพที่ยอดเยี่ยม แม้ว่าคนที่จะสามารถดูภาพที่ความละเอียดแบบนี้น้อยก็ตาม นั่นว่าทำไมการปรับปรุงให้ดีขึ้นในส่วนอื่นๆของโดรนอาจจะสำคัญกว่าสำหรับใครหลายๆคน อย่างการออกแบบรีโมทแบบใหม่ทำให้การถ่ายภาพทางอากาศที่มีคุณภาพสูงนั้นทำได้ไม่ยากสำหรับมือใหม่ที่เพิ่งหัดเล่นโดรนตัวนี้

แต่สุดท้ายแล้วก็ขึ้นอยู่กับงบประมาณและแนวทางการใช้ประโยชน์ของคุณละครับว่ามีเหตผลพอที่จะซื้อโดรนตัวนี้หรือไม่

ขอบคุณภาพประกอบจาก trustedreviews.com

Advertisment

Leave a comment