ล่าสุด

4K กับ 2.7K กับการรีวิวกล้อง Gopro Hero 4

ภาพ 4K กับ 2.7K กับการรีวิวกล้อง Gopro Hero 4

ในแง่ของคุณภาพของภาพวิดิโอสำหรับกล้องแนวแอคชั่นแคม คงหากล้องที่มีความคมชัดสูงสู้กล้อง GoPro ไม่ได้ อย่างน้อยก็ตอนนี้ละครับแต่ในอนาคตนั้นไม่แน่ แล้วมันหมายถึงอะไรในแง่ของการใช้งจริงๆ กันละครับเราก็คงต้องมาดูกัน

กล้อง GoPro Hero3+ Black ซึ่งออกมาก่อนหน้านี้ให้ความละเอียดที่ 2.7K ที่เฟรมเรทเต็มที่ ในกรณีนี้เฟรมเรทแบบ Full Frame จะหมายถึง 24 FPS (frame per second) เป็นต้นไป หากเรทต่ำกว่านี้จะได้ภาพที่คุณภาพลดต่ำลงที่สามารถสังเกตได้ด้วยตาเปล่า ดังนั้นในแง่ของกล้อง Hero3+ Black แล้วละก็​ เราสามารถถ่ายที่ 4K ได้ แต่เฟรมเรทจะอยู่ที่ 15 FPS

แต่กับกล้อง Hero4 แล้วถือว่าต่างกันอย่างสิ้นเชิง เนื่องจาก Hero4 ให้ภาพที่ 4K ที่อัตราเฟรมเรททั้ง 24 25 และ 30 FPS ในขณะที่ Hero4 Silver ให้เฟรมเรทที่ 2.7K ที่ 24 25 และ 30 FPS แต่กรณีของ 4K จะอยู่ที่ 12.5 และ 15 FPS เท่านั้น

ดังนั้นหากจะสรุปถึงความสามารถของกล้อง GoPro รุ่นต่างๆ จึงเป็นดังนี้
– Full Frame Rate 4K = Hero4 Black
– Hero3+ Black = Hero4 Silver (พร้อมจอ)
– Hero 3 White = 2014 Hero รุ่นพื้นฐาน ราคาราว 5,000 บาท

คราวนี้ก็มาดูในแง่ของความละเอียดของจอภาพกันนะครับว่า 4K นั้นต่างจากความละเอียดระดับ HD อย่างไรบ้าง

4K = 3840×2160 = 8,294,400 pixel
2.7K (4:3) = 2740×2020 = 5,483,712 pixel
2.7K (16:9) =2740×1524 = 4,120,896 pixel
1080p = 1920×1080 = 2,073,600 pixel
720p = 1280×720 = 921,600 pixel

จะเห็นได้ว่ากล้องความละเอียดระดับ 4K นั้นให้ความละเอียดสูงมาก จากราวๆ 2 ล้านพิกเซล ไปเป็น 8 ล้านพิกเซลในขนาดหน้าจอที่เท่ากัน แต่อย่าลืมว่าตอนนี้จอภาพคอมพิวเตอร์หรือมือถือที่ท่านกำลังดูอยู่นี้ ตอนนี้ก็คงยังเป็นแบบ HD อยู่ ซึ่งยังไม่สามารถแสดงภาพแบบ 4K ได้แน่นอน เพราะราคาจอภาพในระดับ 4K ตอนนี้อยู่ในหลัก 2 หมื่อนบาทขึนไป ถ้าเป็นของ Apple ก็ราคา 60,000 บาทไปโน่น แม้ว่าทีวีปัจจุบันจะมีแบบ 4K แล้วก็ตาม แต่คนส่วนใหญ่ยังดูกันอยูที่ HD แล้วคำถามของท่านอาจจะคิดว่าแล้วจะถ่ายภาพแบบ 4K ไปทำไม

เหตุผลนั้นมีอยู่สองประการด้วยกัน ประการแรกคือการเริ่มสะสมภาพในระดับ 4K เอาไว้ เพราะรู้ว่าในอีกไม่กี่ปีข้างหน้าจอภาพขนาด 4K คงเป็นเรื่องปกติทั่วไป แต่เหตุผลที่สองอาจจะสำคัญมากตรงที่ว่า มันทำให้คุณสามารถย่อภาพลงมาที่ระดับความละเอียดต่ำกว่าได้ นั่นหมายถึงว่าหากคุณถ่ายวิดีโอที่ความละเอียด 4K แต่คุณต้องการภาพในบางมุมของภาพที่ได้ ความละเอียดก็ยังคงอยู่ที่ HD ได้เมื่อขยายภาพมุมนั้นออกมาให้เต็มจอ

ลองดูตัวอย่างภาพวิดีโอต่อไปนี้นะครับ ซึ่งพยายามจะอธิบายหลักการดังกล่าว สมมุตว่าต้องการถ่ายภาพหน้าปัทว์ที่ติดอยู่ตรงหัวจักรงานที่อยากจะให้อ่านค่าได้จากภาพวิดีโอ ซึ่งเป็นการยากที่จะทำได้เนื่องจากทั้งปั่นไปด้วย และใช้มือถือกล้องไปด้วย แต่ด้วยซอฟท์แวร์ Premier นั้นจะทำให้สามารถ crop ภาพหรือเน้นเฉพาะบางส่วนของภาพแล้วพยายามทำให้มันนิ่ง โดยที่ยังได้ความคมชัดในระดับ HD

จากตัวอย่างอย่างข้างบนจะเห็นได้ว่า ตอนถ่ายภาพนั้นวิดีโอที่ได้จะเป็นแบบ 4K แต่ก็คร็อบออกมาเพียงบางส่วนแล้วมันก็ยังชัดในระดับ 1080p ทั้งความหมายของการ crop นั้นต่างจากการดาวน์สเกลนะครับ เพราะการ downscal นั้นเป็นการลดความละเอียดของภาพลง การคร็อปภาพหมายถึงการตัดภาพบางส่วนทิ้งไป แต่การลดความละเอียดมายถึงการแปลงให้ภาพทั้งหมดมีคุณภาพความคมชัดลดลง

ภาพต่อไปนี้ 2 ภาพจะเป็นเป็นการเปรียบเทียบความละเอียดทั้งสองกรณีคือ 4K และ 1080p โดยการใช้กล้องสองกล้องความละเอียดต่างกันติดตั้งใกล้ๆกันแล้วถ่ายภาพออกมา

ท่านบอกความแตกต่างได้หรือเปล่า รับรองว่าบอกไม่ได้ในตอนนี้ เพราะจอภาพของท่านจะยังเป็นแบบ 1080p อยู่นั่นเอง หรือจอที่ใช้ดูอาจจะเล็กเกินไป ดังนั้นประเด็นนี้จึงน่าจะเป็นสิ่งที่จะทำให้ท่านตัดสินใจได้ว่าจะยอมจ่ายเงินเพิ่มเพื่อซื้อกล้องขนาด 4K แบบฟูลเฟรมหรือไม่

แน่นอนว่าหากท่านตัดสินใจเลือกกล้องแบบ 4K fullframe สิ่งที่ท่านได้มาไม่ใช่แค่เรื่องของความละเอียดของจอภาพอย่างเดียว แต่มันหมายถึงความสามาถในการถ่ายภาพในที่ๆมีแสงน้อยอีกด้วย ลองดูภาพตัวอย่างในตลาดกลางคืนแห่งหนึ่งในเมืองไทยนี่แหละครับ เป็นการถ่ายภาพแผงขายอาหารต่างๆที่ถ่ายมาด้วยความละเอียดระดับ 4K แม้ว่าแสงจะน้อยแต่ทุกอย่างดูคมชัด และผมถ่ายโดยการใช้มือเปล่าๆนี่แหละครับถือกล้อง

ประเด็นนี้แหละครับจึงเป็นที่มาของการจั่วหัวข้อของรีวิวกล้อง gopro hero 4 ที่เขียนมาในช่วงแรกๆว่าเป็นกล้องที่ถ่ายภาพได้คมชัดแม้จะมีแสงน้อยก็ตาม

ภาพประกอบจาก http://www.dcrainmaker.com/

Advertisment

Leave a comment