Facebook ขุดภาพเก่าๆ มาให้เราเศร้าทำไม
Facebook ขุดภาพเก่าๆ มาให้เราเศร้าทำไม
ปกติแล้วในสมัยก่อนหากเรารื้อภาพอัลบั้มออกมาดู ก็อาจจะจมดิ่งไปกับอดีตกันซักพัก ไม่ว่าจะเรื่องดีเรื่องร้ายก็จะกลับเข้ามาในชีวิตอีกรอบ แต่ปัจจุบันที่เป็นยุคของโซเชียลมีเดีย ไม่ต้องไปรื้ออัลบั้มภาพที่ไหน เปิด facebook ดู feed อยู่ดีๆ อาจจะทำเอาอึ้งแล้วหงายหลังตึงไปเลยก็ได้
เรื่องราวข่าวคราวในเมืองไทยอาจจะยังไม่มีใครบ่นออกมามากนัก แต่ฝรั่งเขาเริ่มบ่นกันแล้ว อย่างคุณ Beth Burkley แห่งเมือง San Jose อายุ 48 ปี ออกมาบอกว่า หล่อนตกใจมากตอนที่เห็นภาพอดีตแฟนโผล่ออกมาทางหน้าฟีด
หล่อนเล่าว่าเคยคบกับแฟนเก่าอยู่สองสามคน และตอนนี้ก็ยังคงเป็นเพื่อนกันอยู่ใน facebook ที่นานๆครั้งถึงจะถามข่าวคราวกันบ้า
นอกจากนี้ยังมีคนอื่นๆที่หากเจออีกทีก็อยากจะเห็นหมอนั่นติดแหง่กอยู่ตรงบังโคลนหน้ารถหล่อนมากกว่า ซึ่งการที่ทาง Facebook เอาภาพเก่าๆของหล่อนออกมา บางทีก็ไม่ทันได้ตั้งตัวกันเลยทีเดียว
อย่าลืมว่าความทรงจำเราไม่ใช่ว่าจะมีแต่เรื่องดีๆเสมอไป พอทาง Facebook เริ่มขุดภาพเก่าๆออกมา อย่างกรณีลูกเล่น “On This Day” หรือ วันนี้เมื่อปีก่อนๆ แล้วเอาภาพเก่าๆออกมา บางคนก็อาจจะถึงกับอึ้งแล้วรู้สึกเศร้าไปกับสิ่งที่ผ่านมาเอกได้ง่ายๆ
ศาสตราจารย์ด้านจิตวิทยา Steve Whittaker กล่าวว่า ปกติแล้วเรามักจะไม่จัดเก็บข้อมูลเชิงดิจิตอลให้เป็นหมวดหมู่มากนัก และบางอย่างก็จะอยู่กระจัดกระจายไปในสถานที่ๆไม่คาดคิด บางครั้งอาจจะไม่ใช่แค่หน้า feed ของ facebook อย่างเดียว อาจจะมีแอพอื่นๆ ที่นำข้อมูลเก่าๆมาแสดงให้เราดู ซึ่งการที่เราจัดเก็บไม่เป็นระเบียบนั้น อาจจะทำให้บางคนรับไม่ได้กับความทรงจำเก่าๆที่โผล่มาทางระบบออนไลน์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่ถูกทิ้ง
ความจริงแล้วการแชร์ภาพเก่าๆไม่ใช่เรื่องใหม่ ผู้คนส่วนใหญ่เคยเอาภาพเก่าๆออกมาโพสท์ อาจจะเป็นภาพสมัยเด็ก แต่เรามักจะเลือกภาพที่เก็บความทรงจำดีๆเอาไว้ แต่สื่อโซเชียลอาจจะไม่รับรู้ถึงสิ่งนั้นแล้วไปขุดภาพเก่าๆออกมาแล้วคิดว่าผู้ใช้อยากดูไปซะหมด นั่นหมายถึงทำให้บางคนอาจจะรับไม่ได้ แล้วยิ่งทาง facebook กำลังจะพยายามเข้าถึงแต่ละบุคคลมากขึ้น การหลีกเลี่ยงสิ่งที่จะสร้างความเศร้าหมองให้กับคนเป็นล้านๆ ก็คงยาก
ล่าสุดเมื่อช่วงเดือน พฤศจิกายนที่ผ่านมา บริษัทด้านเทคโนโลยีกำลังทดสอบระบบใหม่ที่จะทำให้ผู้ใช้เห็นภาพจากช่วงอดีตน้อยลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งภาพแฟนเก่า โดยไม่จำเป็นต้องลบความเป็นเพื่อนหรือบล้อคเพื่อนทิ้งไป และจะยังสามารถกรองคนและเวลาจากกรณี “On This Day” บน facebook ได้อีกด้วย
ในฝั่ง google เองก็มีเครื่องมือในแอพรูปภาพที่ผู้ใช้สามารถกำหนดภาพที่ไม่ต้องการดูได้
อีกตัวอย่างหนึ่งก็คงเป็นกรณีของคุณ Bradley Harrell ซึ่งเขาจำได้ว่าเคยโพสท์ภาพแฟนสวมหมวกเขาบนเว็บโซเชียลมีเดีย ต่อมาเมื่อพวกเขาเลิกกัน ก็ไม่สามารถจะโยนภาพเหล่านั้นลงกล่องได้เหมือนภาพถ่ายทั่วไป แต่เขาก็ไม่อยากลบภาพนั้นออกไปจากเครื่อง แต่หลายปีผ่านมาพอ Facebook ขุดภาพเก่าๆนั้นออกมา ความรู้สึกต่างๆก็กลับมาเหมือนกลับไปอยู่ในเหตุการณ์นั้นอีก
เขาเล่าว่า เขาก็เคยคบแฟนเก่ามาหลายคน และปกติแล้วจะยังติดต่อกับอดีตแฟนบ้างประปราย แต่กับหล่อนคนนี้ถือว่าไปได้ไม่สวยนัก พอเห็นภาพหล่อนโผล่มาก็เลยทำให้รู้สึกไม่ดี
เขาบอกว่าหลังเลิกกันก็ไม่ได้กรองภาพหรือลบภาพออกจากหน้าเฟสบุ้ค แต่พอเห็นภาพมาคิดอีกทีก็ดีเหมือนกันว่าจะเป็นเหมือนคำเตือนให้เรารับรู้สิ่งไม่ดีเช่นการเห็นแก่ตัวเป็นต้น
แรกๆเขารู้สึกเหมือนตะหงิดๆใจอยู่บ้าง แต่ด้วยเขาเป็นคนคิดบวก เลยชวนให้คิดถึงว่าตอนนั้นรอดมาได้อย่างไร บางภาพเหมือนจะทำให้เราตระหนักว่าสมัยนั้นทำอะไรแบบเด็กๆไปหน่อย
กลับไปกรณีของ Burkley หล่อนไม่ต้องการเห็นภาพเก่าๆโผล่มาเป็นระยะๆแบบนี้ การเลิกกันในยุคนี้นั้นมันรับรู้กันอย่างกว้างขวางผ่านสื่อสังคม ทำให้หล่อนต้องระมัดระวังในการแชร์รายละเอียดความสัมพันธ์ไม่ว่ากับใครก็ตาม
การเห็นภาพเก่าๆโผล่มา มันเหมือนกับเห็นคนที่ตายไปแล้วในชีวิตจริงที่ยังตามมาหลอกหลอนอยู่ หล่อนระบุชัดว่า ไม่อยากเห็นภาพเหล่าน้นอีก
แล้วท่านหล่ะ มีภาพเก่าๆอะไรโผล่มาให้สะเทือนใจบ้าง ก็บอกเล่ากันหน่อยได้นะครับ
Leave a comment
You must be logged in to post a comment.