ล่าสุด

รีวิวกล้อง Gopro Hero 4 Session

รีวิวกล้อง Gopro Hero 4 Session

Gopro มาพร้อมกับกล้องย่อส่วนที่เล็กลงกว่าเดิมอีกแล้ว คราวนี้ Gopro Hero 4 Session มาในชนาเท่าก้อนน้ำแข็ง แม้จะไม่ถึงกับเป็นกล้องที่คุณภาพดีที่สุดของ Gopro แต่ด้วยขนาดที่เล็กและใช้งานได้ง่าย จึงน่าสนใจมากเลยทีเดียวสำหรับนักเล่นกล้อง action camera ทั้งหลาย

กล้อง Gopro Hero 4 Session ตัวนี้ถือเป็นกล้องถ่ายภาพวิดีโอขนาดเล็กของ Gopro ซึ่งหากถามว่าเล็กขนาดไหน ก็ต้องบอกว่าเล็กเท่าๆกับก้อนน้ำแข็งเลยทีเดียว หรือเล็กเกือบครึ่งนึงของกล้อง GoPro ที่วางตลาดอยู่ตอนนี้ เราสามารถนำกล้องไปใส่ปลายเบ็ตตกปลา เอาไปใส่ในวัสดุต่างๆ พูดง่ายๆ ว่าแม้แต่เด็กๆก็จะกลายเป็นผู้กำกับหนังสารคดีได้ทันที

Gopro Hero 4 Session จะวางจำหน่ายในวันที่ 12 กรกฏาคมนี้ และทาง Gopro ก็ได้ให้กล้องผมมาลองเล่นดูสักพักนึงแล้ว แม้จะไม่ใช่กล้องที่คุณภาพสุดยอดเท่าที่ Gopro เคยทำมา แต่มันเล็กมากและใช้งานง่ายและคิดว่าผมติดใจมันมากๆ

แต่ราคาอาจจะไม่น่ายินดีเท่าไหร่ ในอเมริกาจะวางจำหน่ายที่ประมาณ $400 USD หรือราวๆ 12,000 บาท ซึ่งราคาก็เทียบเคียงกับ Apple Watch และเทียบได้กับ Hero 4 Silver ที่มาพร้อมจอสัมผัสและคุณภาพของภาพที่ดีกว่าด้วย

Gopro-hero-4-session

แต่เจ้า Session นี้ Gopro คาดหวังว่าจะทำอะไรออกมาให้ได้ดีเท่ากับยุคที่ iPod Shuffle ออกวางตลาด ซึ่งตอนนั้นในปี 2005 ที่ทาง Apple เปิดตัวก็ถือว่าประสบผลสำเร็จเป็นอย่างดี เนื่องจาก iPod นั้นเล็กมากพอที่จะพกพาไปกับสร้อยคอได้ จุดขายของมันก็คือ ไม่มีหน้าจอ ไม่มีแบตที่ต้องถอดเข้าออก และไม่มีระบบเมนูอะไรต่างๆที่ซับซ้อนมากนัก

Gopro Hero 4 Session ถือเป็นสินค้าที่ออกแบบมาใหม่หมดจดตัวหนึ่งของ Gopro ในช่วงเกือบสิบปีที่ผ่านมา โดยส่วนแบ่งตลาดของ Gopro นั้นสูงถึง 70% ของตลาดกล้องวิดีโอจากรายงานผลการสำรวจของ NPD ส่วนที่คล้ายกับ Shuffle ก็คือ Gopro Hero 4 Session นั้นลดอะไรต่างๆลงเพื่อให้มันเล็กลงและน่าใช้งานมากขึ้น มันไม่มีหน้าจอให้ดูภาพ ไม่มีปุ่มอะไรมากมาย เปลี่ยนแบตเตอร์รี่ไม่ได้

แต่สิ่งที่พบเจอกับ Gopro Hero 4 Session ที่ได้รับการออกแบบมาใหม่คือ แก้ปัญหาการใช้งานของกล้อง Gopro ที่ผมเคยบ่นมานานว่าใช้งานยาก กล้องนี้ถือว่าตอบโจทย์คนที่เวลาเจออะไรแล้วถ่าย ก็จะทำได้ง่ายมาก

Gopro Hero 4 Session ถ่ายภาพได้แบบ Full-HD และพร้อมที่จะเปียกน้ำได้โดยไม่ต้องใส่กรอบให้มันเหมือนรุ่นปกติ เลนซ์ของ Session นั้นถูกปกป้องไว้อย่างดี และช่อง USB สำหรับชาร์ชไฟและช่องเสียบเมโมรี่การ์ดนั้นได้รับการซีลด์ด้วยระบบความดัน ดำน้ำลึก 10 เมตรได้สบายๆ ไมโครโฟนจะแห้งไวมากดังนั้นออกจากสระน้ำเข้าห้องปาร์ตีก็ทำได้ทันที

Gopro-hero-4-session-2

จำนวนปุ่มกดของ Gopro Hero 4 Session ก็ลดลงจาก 3 ปุ่มเหลือ 2 ปุ่ม โดยมีปุ่มใหญ่ๆอยู่อันเดียวซึ่งต้องกดบ่อย กดปุ่มเพียงหนึ่งครั้งก็จะเปิดเครื่องและเริ่มบันทึกภาพทันที หรือกดค้างไว้หากต้องการถ่ายภาพนิ่ง จะมีตัวแสดงผลแบบดิจิตอลเล็กๆเพื่อยืนยันการทำงานของมัด้วย กดปุ่ม Shutter ซำ้อีกครั้งเพื่อหยุดการบันทึก ถือว่ากระบวนการนี้นั้นเร็วมากในการบันทึกภาพ และเร็วกว่ากล้องรุ่นก่อนหน้านี้ของ Gopro มาก แถมยังถือว่าเริ่มสูสีกับคู่แข่งอย่าง Sony อีกด้วย

การออกแบบให้ทุกด้านเท่ากันนั้นอาจจะบอกได้ยากว่าถ่ายภาพกลับหัวอยู่หรือเปล่า แต่ไม่ต้องเป็นห่วง กล้องขนาด 1.5 นิ้วนี้สามารถรับรู้ได้ว่ามันอยู่ในแนวไหน และจะมีการกลับภาพอัตโนมัติในลักษณะ 180 องศา ดังนั้นหากวางกล้องในแนวข้างเอียง 90 องศา ภาพที่ได้ก็คงต้องเอียงคอดู

พลังแบตเตอร์รี่ของ Gopro Hero 4 Session นั้นสามารถถ่ายวิดีโอแบบ HD ได้นาน 2 ชั่วโมง และไม่เปลืองพลังงานอะไรมากหากไม่มีการเปิดกล้อง แต่การชาร์ชแบตต์แต่ละครั้งอาจจะใช้เวลานานถึง 90 นาทีด้วยกัน

คำถามสำคัญคือทำไมคุณต้องมีกล้อง Gopro อีกในเมื่อคุณมี smartphone อยู่ในมืออยู่แล้ว คำตอบก็คือคุณจะเอาโทรศัพท์ของคุณไปยึดกับอุปกรณ์ต่างๆ ที่คุณไม่คาดคิดว่าจะเอาโทรศัพท์หรือกล้อง DLR ไปยึดมันหรือเปล่าเล่า

ผมลองให้เด็ก 2 ขวบลองเล่นกับกล้อง Gopro Hero 4 Session พบว่าไม่มีปัญหาอะไรเลย ด้วยลักษณะแบบลูกบาศก์และไฟแดงกระพริบๆ พบว่าผมได้ภาพที่น่าทึ่งจากเด็กเล็กๆคนนึง เมื่อมองจากเลนซ์กล้องเล็กๆอันนี้ เจ้าเด็กน้อยดูเหมือนเป็นยักษ์กำลังเล่นกับรถไฟเด็กเล่นเหมือนดูหนังเลยก็ว่าได้

ผมลองเอากล้องมาแปะไว้ด้านล่างของสเก็ตบอร์ด ใส่ไว้บนตุ๊กตา หรือในแก้วเครื่องดื่ม บางคนถึงกับคาบมันเอาไว้เวลาถ่ายภาพตอนเล่นกับลูกๆ

หากเทียบกับกล้อง Gopro รุ่นอื่นๆแล้ว พบว่า Gopro Hero 4 Session ที่มาขนาดเล็กและทนทาน ทำให้พกพาไปได้ทุกที่ พกไปกับกระเป๋ากางเกง จะหลงลืมลงเล่นน้ำก็ไม่ต้องกลัวเสียหายอะไร

Gopro-hero-4-session-3

การออกแบบของกล้องนี้มาพร้อมกันสิ่งที่น่าสนใจหลายอย่าง แต่หากคุณคิดจะทำหนังสารคดีลงโรงแล้วละก็อาจจะไม่เหมาะนัก แม้ตัวระบบกล้องจะคุณภาพใช้ได้ แต่ก็สู่รุ่น Hero 4 Black หรือ Silver ไม่ได้ ซึ่งกล้องเหล่านั้นถ่ายภาพที่ความละเอียดสูงกว่าได้ แถมที่แสงน้อยก็ทำได้ดี

อีกอย่างกับกล้อง Gopro Hero 4 Session คุณจะต้องสามารถภ่ายภาพโดยไม่ต้องมีจอให้มองภาพได้ แต่จะว่าไปแล้วเลนซ์มุมกว้างที่ให้มานั้น คุณก็แทบจะถ่ายทุกอย่างที่ขวางหน้าได้อยู่แล้ว แต่จริงๆแล้วคูณสามารถใช้อีกปุ่มกดที่มีอยู่เพื่อเปิด Wi-Fi แล้วดูภาพผ่านมือถือ ดาวน์โหลดข้อมูล หรือเปลี่ยนโหมดอะไรต่างๆ ได้อยู่แล้ว

ทาง Gopro เองส่งเสริมการสร้างมุมมองจากกล้องด้วยอุปกรณ์จับยึดที่หลากหลาย ซึ่งจะติดตั้งได้หากคุณเอาเฟรมพลาสติคติดเข้ากับตัวกล้อง และทาง Gopro ก็เคยประกาศว่าจะมีการเปิดตัวโตรนออกมาโดยเฉพาะอีกด้วย

เมื่อได้ภาพแล้วจะจัดการยังไงกับภาพเหล่านั้น ทาง Gopro ก็ให้โปรแกรมตัดต่อมาแล้ว แต่ดูเหมือนว่าจะมีบักบ้างเล็กน้อย แต่สมัยนี้ใครเขาตัดต่อวิดีโอกันอีกแล้วเล่าคุณว่าไหม

เป้าหมายทางการตลาดของ Gopro ที่ผ่านดูเหมือนจะเป็นกีฬาแล้วโหด มันส์ หา แต่คราวนี้ด้วยหน้าตาของกล้องและความทนทานใช้งานง่าย ทาง Gopro อาจจะพุ่งเป้าให้เป็นกล้องสำหรับบันทึกภาพชีวิตในครอบครัวซะมากกว่า เราก็คงต้องดูกันต่อไปว่าคนซื้อจะนิยมเอากล้อง Gopro Hero 4 Session ไปถ่ายอะไรกันบ้าง

Advertisment

Leave a comment