Tweet

DJI Phantom 4 กับจุดเด่นที่เปิดเผยจากข้อมูลสิทธิบัตร

จากข้อมูลการจดเครืองหมายการค้าและสิทธิบัตรของ DJI ทำให้เราพอจะเดาได้ถึงลักษณะต่างๆของ Phantom 4 กันได้บ้างแล้ว เรามาดูกันนะครับว่าจะมีอะไรบ้าง

ก็คงเป็นที่ทราบกันดีนะครับว่าการหลบหลีกสิ่งกีดขวางนั้นอาจจะเป็นจุดเด่นของ DJI Phantom 4 ที่จะเปิดตัวเร็วๆนี้ อีกทั้งคู่แข่งอย่าง Yunee ที่จะเปิดตัว Typhoon H ในช่วงไตรมาสสามปีนี้ จึงมีความเป็นไปได้สูงสำหรับคุณสมบัตินี้

อย่างไรก็ตามเมื่อเร็วๆนี้ทาง DJI ได้ยื่นจะเครื่องหมายการค้า และยื่นขอสิทธิบัตรที่อาจจะนำไปสู่ความเชื่อที่ว่าพวกเขาอาจจะมีอะไรที่น่าสนใจกว่าระบบหลบหลีกสิ่งกีดขวางก็เป็นได้

ทุกวันนี้สิ่งหนึ่งที่เป็นความท้าทายสำหรับการถ่ายภาพโดยใช้โดรนแบบขับคนเดียว คือการทำให้วัตถุนั้นๆอยู่ในกรอบตลอดเวลา เหตุผลก็คือเพราะมันเป็นการยากที่จะจัดการกับจังหวะ การหมุนตัว มุมเงย ความเร็ว และความเอียงของกล้องในเวลาเดียวกัน อีกทั้งต้องพยายามหลีกสิ่งกีดขวางไปด้วย

หรือพูดง่ายๆ การถ่ายภาพทางอากาศจะยากยิ่งหากวัตถุนั้นมีการเคลื่อนที่ แต่ความยากลำบากเหล่านี้อาจจะมีการทำให้ง่ายลงได้

เมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา สิทธิบัตริของ DJI ได้รับการเผยแพร่ในชื่อของ ระบบและวิธีการในการติดตามวัตถุ ต้องให้เคลียร์ก่อนนะครับว่านี่ไม่ใช่ระบบค้นหาความร้อนของขีปนาวุธทำลายล้างนะครับ แต่เป็นรายละเอียดวิธีการในการติดตามวัตถุที่กำลังเคลื่อนไหวโดยการอาศัยข้อมูลภาพถ่าย ที่จะลดความจำเป็นในการที่คุณจะต้องคอยปรับกล้องเอง

ระบบทำงานอย่างไร

ถ้าดูจากข้อมูลในสิทธิบัตรแล้ว ในกรณีของผู้ใช้งานนั้นดูเหมือนจะทำได้ง่ายๆ เพียงแค่มองภาพบน iPhone หรือ iPad แล้วก็จิ้มนิ้วลงไปยังวัตถุที่เราต้องการติดตาม แล้วมันก็จะทำทุกอย่างที่เหลือแทนคุณเอง คุณอาจจะเลือกบินวนไปมาในขณะที่กล้องเองก็ติดตามวัตถุนั้นๆอยู่ หรือจะปล่อยให้โดรนบินเองแล้วติดตามถ่ายภาพวัตถุนั้นก็ได้

ถ้าที่กล่าวมายังไม่เด็ดพอ จากที่ดูข้อมูลสิทธิบัตรแล้ว มีการพูดถึงระยะห่างจากวัตถุจะสามารถช่วยในการตั้งค่าโฟกัสและการซูมภาพเข้าไปยังวัตถุนั้นๆได้ด้วย

แม้ว่าแนวความคิดในการติดตามวัตถุดูเหมือนจะตรงไปตรงมา แต่ระบบกลไกเบื้องหลังนั้นถือว่าซับซ้อนเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งก็พอๆกับระบบหลบหลีกสิ่งกิดขวางนั่นแหละ เอาเป็นว่าเราคงไม่ต้องไปไกลถึงวิธีการในการจดจำสีหรือแพทเทิร์นอะไร เอาแค่รู้ว่าเรื่องนี้ถือเป็นเทคโนโลยีที่ล้ำหน้ามาก

จะว่าไปแล้วเราเองก็ไม่ถึงกับมั่นใจนักว่าระบบนี้จะอยู่ใน DJI Phantom 4 หรือไม่ แต่หากมันมีเซ็นเซอร์ที่เหมาะสมและความสามารถในการประมวลผลที่เพียงพอแล้วละก็ ไม่ใช่เรื่องยากที่จะเพิ่มเติมเข้ามาด้วยแค่การอัพเดทซอฟแวร์เข้าไป

ยังมีมากกว่านั้น

เรื่องสิทธิบัตรของ DJI นั้นเป็นแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น เพราะเมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ที่ผ่ามา DJI ได้ยื่นจดทะเบียนการค้ากับชื่อ TapFlight และ TapFly อีกด้วย โดยทั้งสองชื่อดูเหมือนจะมีความหมายเหมือนกัน เอาเป็นว่ามันคือสิ่งเดียวกันแล้วกัน ซึ่งข้อมูลจากเว็บไซท์เครื่องหมายการค้า จะมีคำอธิบายยาวเหยียดในประเด็นนี้

TapFlight คืออะไร

มีคำอธิบายยาวเหยียดที่กล่าวถึงคำนี้ เริ่มจากการบอกถึง ระบบควบคุมการบินอัตโนมัติและระบบนำร่องที่ประกอบด้วยคอมพิวเตอร์ฮาร์ดแวร์และซอฟแวร์สำหรับการควบคุมการบินของโดรน สิ่งที่น่าสนใจก็คือการระบุถึงคำว่า ซอฟท์แวร์แอพพลิเคชั่นสำหรับอุปกรณ์มือถือ เราอาจจะเข้าใจผิดก็ได้ แต่ดูเหมือนจะเป็น แอพตัวใหม่ของ DJI สำหรับการควบคุมการบินของ Phantom 4, Inspire 2 หรือรุ่นอื่นๆของ DJI ในอนาคต

แถมยังมีส่วนหนึ่งที่กล่าวถึง ซอฟท์แวร์ที่ใช้ในการนำร่อง นำทาง ติดตาม และเล็งเป้าไปยังวัตถุ ของโดรน ซึ่งถือว่าน่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง

ทั้งหมดนี้หมายความว่าอย่างไร

ลองจินตนาการดูถึงแอพที่ใช้กับ Phantom 4, Inspire 2 หรืออื่นๆ ที่ซึ่งการขึ้นบินไม่ใช่ประเด็นหลักอีกต่อไป ในแอพนี้ ข้อมูลการบินต่างๆไม่ได้สร้างความกังวลใจให้คุณอีกต่อไป คุณจะสนใจในประเด็นการบินน้อยลงแต่จะหันมาสนใจในการถ่ายภาพมากขึ้น

มองผ่านจอ คุณอาจแค่แตะวัตถุที่กำลังสนใจให้โดรนติดตาม แล้วปรับเฟรมภาพ หรือใส่ลำดับกระบวนการถ่ายภาพเข้าไปเช่นการเปลี่ยนจุดโฟกัสหรือซูมภาพ ในบางกรณีคุณอาจจะใช้อุปกรณ์มือถืออย่าง iPhone หรือ iPad ในการอ้างอิงถึงตัวโดรน ทำให้คุณควบคุมมันได้อย่างง่ายๆเหมือนเล่นเกมส์

ระบบแบบนี้ไม่ใช่ระบบ Follow me ที่เราคุ้นเคย แต่มันเหมือนระบบถ่ายภาพยนต์เลยทีเดียว ซึ่งจะถือว่าเป็นระบบที่พลิกโฉมหน้าวงการไปเลยหากมีการใช้งานร่วมกับระบบหลบหลีกสิ่งกีดขวางด้วย

ก็ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าทาง DJI จะเอาคุณสมบัตินี้ใส่เข้าไปใน Phantom 4 หรือไม่ในปี 2016 แต่ที่แน่ๆ ทาง DJI กำลังมีโครงการใหญ่ในอนาคต เราก็คงได้แต่รอฟังข่าวแล้วก็เตรียมเก็บเงินไว้ให้พอแล้วกัน

ที่มา myfirstdrone.com