DJI Phantom 4 โดรนที่ดีที่สุดที่ผมเคยบินจนพัง
DJI Phantom 4 โดรนที่ดีที่สุดที่ผมเคยบินจนพัง
ถึงตอนนี้ใครหลายๆคนก็คงได้ทดลองบินโดรน DJI Phantom 4 ตัวใหม่ล่าสุดกันไแล้ว โดยโดรนที่ออกมาใหม่ล่าสุดนี้ถือว่ามีคุณสมบัติโดดเด่นต่างๆมากมาย บรรจุมาในรูปร่างที่แทบจะไม่ต่างจากเดิมมากนั้น ไม่ว่าจะหน้าใหม่หน้าเก่า ก็จะสามารถบินมันได้โดยง่าย และแน่นอนว่ามันหลบสิ่งกีดขวางได้โอกาสที่จะบินชนสิ่งต่างๆน้อยลง แต่ผมก็จะขอบอกว่า ไม่ทุกคนที่จะขับ Phantom 4 ได้ และมันร่วงกลางอากาศได้ง่ายมาก ผมหมายความว่าอย่างไรก็ลองติดตามอ่านดู
เป็นที่รู้กันดีว่า DJI Phantom ที่ออกมาในรุ่นใหม่ๆนั้นจะยิ่งบินได้ง่ายมากขึ้น และเหมาะสำหรับการถ่ายภาพทางอากาศมากกว่ารุ่นก่อนๆ รุ่นแรกที่ผมหัดบินก็คือ Phantom 2 Vision และมันเป็นรุ่นที่บินได้ง่ายและบินสนุกมากสำหรับคนที่ไม่เคยได้ลองเล่นเครื่องบินบังคับประเภทใดๆมาก่อน แต่ท้ายที่สุดผมก็บินมันจนร่วงแล้วมันก็พังแถมยังทำให้ผมเจ็บใจอีกด้วย
มาถึง DJI Phantom 4 ที่มีคุณสมบัติต่างๆที่คาดว่าจะทำให้มันบินได้ง่ายยิ่งกว่ารุ่นก่อน และตกยากกว่ารุ่นก่อน โดยรุ่นก่อนๆจะมีคุณสมบัติเด่นๆอย่าง ถอดใบพัดได้ง่าย ปุ่มควบคุมที่ใช้งานสะดวก กล้องคุณสมบัติสุดยอด โหมดการบินอัฉริยะ และสิ่งที่ Phantom ยังขาดก็คือการบินแบบอัตโนมัติที่คนเล่นโดรนต้องการ
คุณสมบัติดังกล่าวได้แก่ระบบการหลบหลีกสิ่งกีดขวาง และระบบการมองเห็นซึ่งจะช่วยให้โดรนสามารถติดตามวัตถุที่ต้องการได้ ดังนั้นเมื่อทาง DJI ประกาศตัว Phantom 4 ที่มาพร้อมกล้องหน้าที่จะช่วยป้องกันไม่ให้มันบินชนกำแพง และระบบ ActiveTrak ที่จะช่วยให้มันจับภาพวัตถุที่ต้องการตลอดเวลาจึงถือเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นเป็นอย่างยิง วิดีโอรีวิวต่างๆ ก็ออกมายกนิ้วให้กันมากมายว่าสุดยอดแห่งโดรนของปี 2016 ไปแล้ว
แต่ต้องขอบอกว่า ความเป็นจริงไม่ได้สวยหรูอย่างที่คิด แม้ DJI Phantom 4 จะเป็นโดรนที่ดีที่สุดเท่าที่ผมเคยลองบินมา แต่มันไม่ใช่โดรนสำหรับทุกคน แน่นอนว่าไม่เหมาะกับหน้าใหม่แน่ๆ มาฟังเหตุผลว่าทำไม
ก่อนอื่นก็ต้องขอเล่าย้อนไปนิดนึงว่า ตอนที่ผมแกะกล่อง DJI Phantom 4 ออกมาใหม่ๆนั้นผมก็ร้องอุทานดังๆในใจ ผมประทับใจกับรูปแบบการออกแบบมาใหม่ของ DJI Phantom 4 ที่ดูเพรียวกระทัดรัดและเหมือนจะเล็กลงกว่าเดิม การออกแบบใหม่นี้น่าจะทำให้แบตเตอร์รี่ใช้งานได้นานขึ้น โดยความจริงแล้วจะบินได้มากกว่า 28 นาทีตามที่โฆณษาไว้ด้วยซ้ำ แต่เซ้งตรงที่จะไม่สามารถพับขาตั้งแล้วยัดใส่กระเป๋าสะพายได้
ขณะเดียวกัน มอเตอร์รุ่นใหม่นั้นทำให้สามารถบินในโหมดสปอร์ตได้ซึ่งสามารถบินได้เร็วถึงกว่า 70 กม/ชม เลยทีเดียว
นอกจากนี้แล้ว Phantom 4 ยังมีชุดกล้องที่ถ่ายภาพลงมาด้านล่าง และมาพร้อมเซ็นเซอร์แบบโซน่าร์ที่ทำให้มันสามารถรับรู้ตำแหน่งผ่านภาพได้ ทำให้มันรู้ว่าอยู่ตำแหน่งไหนโดยไม่จำเป็นต้องพึ่ง GPS อย่างเดียว และด้วยระบบ IMU ทำให้ Phantom 4 บินได้นิ่งมากขึ้น
แต่ในสภาวะลมแรงอาจจะรู้สึกได้ถึงการแกว่งตัวของโดรน แต่เราก็ไม่ควรบินในสถานที่ๆมีลมแรงอยู่แล้ว ในส่วนของกล้องเองก็ถือว่าสุดยอด มันสามารถถ่ายวิดีโอระดับ 4 K ได้และภาพนิ่งที่ 12 MPixels และลูกเล่นอื่นๆตามที่เราได้ทราบกันแล้วจากรีวิวก่อนหน้านี้ ทำให้เราสามารถให้ความสนใจกับภาพที่กำลังถ่ายมากกว่าที่จะไปพะวงกับการบังคับทิศทางของโดรน
สำหรับคนที่เล่นโดรนแล้วเคยทำพังมาแล้ว ระบบการหลบหลีกสิ่งกีดขวางนั้นดูเหมือนจะเป็นระบบที่น่าจะเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับโดรนรุ่นใหม่นี้ แต่คุณรู้ไหมครับว่าสิ่งแรกที่เกิดกับผมตอนได้รับ Phantom 4 มาใหม่ๆก็คือ ผมบินมันจนร่วงตั้งแต่ครั้งแรกเลย
ผมบังคับมันให้บินขึ้น แล้วมันก็บินลอยไปทางด้านข้างแล้วชนโครมเข้ากับกำแพง อย่างที่บอกแหละครับ ระบบหลบหลีกสิ่งกีดขวาง จะทำงานก็ต่อเมื่อเราบินเอาด้านหน้าเข้าหาสิ่งกีดขวางเท่านั้น แต่หากคุณบินแบบลอยไปซ้ายขวา หรือบินถอยหลัง หรือบินในโหมด Sport ยังไงก็ชนแน่ๆ
จะว่าไปแล้วก่อนที่เกิดเหตุ ก็มีหลายๆอย่างที่ไม่โสภานักในการที่จะบินเจ้า Phantom 4 ตัวนี้ เนื่องจากประสบการณ์ที่ผ่านมาผมพบว่ามี โดรนอยู่ไม่กี่รุ่นเท่านั้นที่พร้อมจะบินทันทีหลังจากแกะกล่อง Phantom 4 ก็ทำนองเดียวกัน เราต้องชาร์ชแบตต์ให้เต็มก่อน แล้วต้องคาลิเบรท
ตอนแรกๆผมมีปัญหากับ DJI GO แอพรุ่นเบต้านี้มาก ซึ่งก็ต้องหามาใช้ก่อนที่จะบินโดรน หลังจากนั้นผมก็มุ่งหน้าไปยังลานกว้างๆแล้วพบว่ายังมีปัญหา Firmware ที่จัดการยากผ่านเน็ตมือถือ สรุปว่าผมต้องลองเริ่มบินถึง 3 ครั้งมันถึงจะลอยขึ้นสู่อากาศได้
หลังจากมันขึ้นบินแล้ว ผมก็พบว่าการบิน Phantom 4 เป็นเรื่องที่วางไม่ลงทีเดียว นิ่มนวลพร้อมพลังแรง กล้องก็สุดยอด แต่หลังจากบินไปได้ไม่กี่วันก็จะพบว่าซอฟท์แวร์ที่ให้มานั้นไม่ถึงกับจะใช้งานได้ง่ายๆเหมือนคิด จะต้องมีการกดผ่านเมนูต่างๆเพื่อจะใช้ลูกเล่นที่ต้องการ อย่าง ActiveTrak นี่ก็ใช่ว่าจะง่ายนักที่จะเล่นมัน
การบิน Phantom 4 ง่ายก็จริง แต่ไม่ใช่ว่ามันจะสามารถปล่อยไปตามอารมณ์ของมันได้ เนื่องจากระบบหลบหลีกสิ่งกีดขวางทำงานในทิศทางด้านหน้าเท่านั้น นักบินหน้าใหม่อาจจะมีความยากลำบากในการทำให้ส่วนหน้าที่เป็นไฟสีแดงพุ่งไปข้างหน้าเสมอ การใช้ ActiveTrak ไม่ได้น่าใช้งานเหมือนที่หลายๆเว็บรีวิวเอาไว้ ตอนที่ผมลองเหมือนกล้องจะไม่ได้จับภาพผมไว้ได้ ตอนผมลองวิ่งไปไกลๆ โดรนตัวนี้เหมือนไม่ได้ตามผมมา ไม่รู้ผมทำอะไรผิดไปหรือเปล่า
ผมลองเหมือนที่คนอื่นอยากลอง นั่นคือลองให้มันบินตรงเข้ามาหาศรีษะผม ปรากฏว่ามันหยุดกึก อืมก็ใช้งานได้ดี ผมลองเปลี่ยนเป็นโหมด Sport มันก็บินด้วยความเร็วสูงลัดทุ่งไป
ต่อมาฝนเริ่มตกปรอยๆ คนเริ่มหายไปจากบริเวณนี้ ผมก็เลยคิดในใจว่าถึงเวลาเล่นอะไรสนุกๆแล้ว ก็เลยเปลี่ยนเป็น Sport Mode แล้วผมก็วิ่งเร็วๆ แล้วก็ลองบินด้วยความเร็วสูงใส่ผนัง มันบินผ่านหัวผมไปด้วยความเร็วสูง ผมก็หันหัวดูตาม ซึ่งทันที่จะเห็นมันระเบิดและแตกเป็นเสี่ยงๆ ชิ้นส่วนขาวๆ กระจายไปทั่วพื้นที่ในทุกทิศทาง ตายหละ อ่านคู่มือพลาดไปหรือเนี่ย
ตามที่บอกละครับ การหลบหลีกสิ่งกีดขวางนั้นจะไม่ทำงานในโหมด Sport ในคู่มือก็บอกอย่างนั้นผมก็อ่านแล้วทุกหน้า แต่ปัญหาของการเล่นโดรนก็คือรุ่นที่มันซับซ้อนแบบนี้การเปลี่ยนการตั้งค่าอะไรต่างๆระหว่างบินนั้นไม่ใช่จะทำได้ง่ายๆ หากคุณเป็นนักบินใหม่ๆ และพยายามจะเล่นอะไรสนุกๆภายในเวลา 25 นาที บางครั้งอาจจะลืมเอาได้ว่าโหมดไหนอะไรใช้งานได้บ้าง
สรุปว่าผมลืม ทำมอไซค์ MSX หายไปคันนึง ดีที่ว่าไม่มีคนอื่นๆอยู่แถวนั้นด้วย สรุปว่า DJI Phantom 4 เป็นโดรนที่ดีที่สุดเท่าที่ผมเคยเล่นมา แต่มันไม่ถึงกับจะบินง่ายนัก สำหรับคนที่มีประสบการณ์สูงแล้วเหมาะมาก แต่สำหรับหน้าใหม่ก็ต้องระมัดระวังหน่อย
อย่าเป็นแบบผมนะครับ ท่องไว้เลย Sport Mode ชนพัง Sport Mode ชนพัง Sport Mode ชนพัง
Leave a comment
You must be logged in to post a comment.