ข้อคิดเกี่ยวกับ DJI Phantom 4 จากอดีตลูกจ้าง DJI
ข้อคิดเกี่ยวกับ DJI Phantom 4 จากอดีตลูกจ้าง DJI
บทความจาก Eric Cheng
ก่อนหน้านี้ก็ได้แปล รีวิว DJI Phantom 4 มาให้อ่านเรียกน้ำย่อยกันไปแล้วนะครับ คราวนี้ไปเจอบทความดีๆ ของอดีตพนักงาน DJI ที่ให้ความเห็นเกี่ยวกับ Phantom 4 มา เรามาดูกันว่าเขามีความคิดเห็นอย่างไรบ้าง
เมื่อเช้าวันที่ 1 มีนาคมที่ผ่านมา DJI ได้เปิดตัว Phantom 4 ซึ่งถือเป็นรุ่นล่าสุดของโดรนระดับผู้ใช้งานทั่วไปโดยโดรนตัวใหม่นี้จะเป็นรุ่นแรกในตลาดที่สามารถ หลบหลีกสิ่งกีดขวาง และติดตามวัตถุได้โดยใช้เพียงกล้องด้านหน้าในการประมวลผล
ผมเคยคาดหวังว่าทาง DJI จะสร้างความฮือฮาในตลาดด้วยการออกแบบหน้าตาของโดรนให้ใหม่หมดจดไปเลย อย่างน้อยก็เพื่อให้สามารถส่งของกันได้สะดวกขึ้น แต่สุดท้าย Phantom ตัวใหม่นี้ก็ยังมีหน้าตาคล้ายรุ่นเดิมอยู่มาก เพียงแค่ดูโค้งมนมากขึ้นเท่านั้น
ด้านบนของโดรนตัวนี้ก็ดูราบเรียบเกินไป อยากจะให้ทาง DJI ออกแบบให้มีลูกเล่นอะไรที่จะนำสายตามากกว่านี้ แต่คิดว่าอาจเป็นเพราะพอโดรนตัวนี้บินสู่อากาศแล้วคงไม่มีคนเห็นด้านบนแล้วกระมัง อย่างไรก็ตามตรงส่วนใต้ท้องให้ความรู้สึกถึงการออกแบบที่เข้ากันได้ดี ผิวหน้าวัสดุก็ดูดีมีสไตล์ขึ้นมาบ้าง
Gimbal แบบสองแกนของรุ่นเก่านั้นถูกแทนที่ด้วย Gimbal รุ่นใหม่แบบสามแกน ซึ่งทำให้โดรนตัวดีหน้าตาดูดีไปเลย สำหรับกล้องของ Phantom 4 นั้นยังใช้ตัว sensor เหมือนที่ใช้กับ Phantom 3 Professional แต่มาพร้อมกับเลนซ์แก้วใหม่ที่น่าจะให้ภาพและสีที่คมชัดกว่าเดิม
ในส่วนหน้าของ Phantom 4 นั้นจะมาพร้อมกับกล้องสองตัวเพื่อสร้างภาพแบบสเตอริโอ โดยกล้องจะฝังไว้ในตัวเครื่องตัวส่วนที่ติดกับขาลงจอด
แม้ดูจากภายนอกจะดูเรียบๆ แต่หากมองลึกลงไปแล้วจะเห็นถึงพลังความสามารถที่ซ่อนอยู่ในโดรนตัวนี้ ด้วยความสามารถทางด้านการมองเห็นและพลังการประมวลผลของคอมพิวเตอร์ที่มี ทำให้มันสามารถติดตามวัตถุในโลกสามมิติได้ นั่นคือด้วยกล้องสองตัวที่ว่า Phantom 4 สามารถตรวจจับและหลบหลีกสิ่งกีดขวางได้ พร้อมๆกับสามารถตรวจจับและติดตามวัตถุที่เราต้องการได้
ความสามารถอันนี้แหละที่ทาง DJI ให้ชื่อเรียกว่า “Return To Your Sense” ตอนที่ทาง DJI ออกวิดิโอเรียกน้ำย่อยมาเมื่อช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา อาจจะฟังแปลกไปนิดที่ว่าตงลงจะให้กลับไปไหน เพราะตอนนี้ถือว่าโดรนตัวนี้เป็นสุดยอดของเทคโนโลยีแล้ว
คุณสมบัติใหม่ๆของ Phantom 4
ตอนนี้ก็คงมีบทความมากมายออกมาอธิบายลักษณะเด่นของ Phantom 4 กันแล้ว แต่เราก็ขอลิสท์รายการต่างๆที่ได้รับรู้มาว่ามันเป็นความแตกต่างที่เห็นได้จาก Phantom 4 เมื่อเทียบกับ Phantom 3
– ระบบการมองเห็น ทีมาพร้อมกับกล้องด้านหน้า 2 กล้องที่ใช้สำหรับการติดตามวัตถุ รวมถึงการค้นหาและหลบหลีกสิ่งกีดขวางด้วย
- FOV 60 องศาแนวดิ่ง 30 องศาแนวนอน
- ตรวจจับวัตถุไกลสุด 15 เมตร
- DJI GO มีการแสดงสัญญลักษณ์ภาพวัตถุที่ตรวจจับ
– หนักกว่าเดิม 100 กรัม
– แบตเตอร์รี่ใหม่ ขนาด 5350 mAh 15.2 โวลท์ บินได้ 28 นาที ชุดต้นแบบบางครั้งบินได้นานกว่า 30 นาที
– ช่อง Micro-SD และ micro-USB ถูกย้ายไปไว้บนตัวเครื่อง
– กล้องใช้ตัวรับภาพอัเดิม แต่มีเลนซ์แก้วที่ดีกว่าเก่า บันทึก 1080p/120fps wด้
– มอเตอร์มีสเป็คเดิม แต่ถูกดันให้สูงขึ้นมา เพื่อให้ระบายความร้อนได้ดีขึ้น
– มีตะแกรงระบายความร้อนที่ส่วนล่างของแขน
– ระบบสำรอง คือมี IMU และ ตัววัดสนามแม่เหล็กอย่างละสองชุด
– ใบพัดแบบใหม่ ถอดได้ง่าย
– ล้อคที่ปลายแขนแต่ละอันไว้สำหรับใส่ prop guards
– โหมดการบินที่ได้รับการปรับปรุงใหม่
- โหมดธรรมดา เหมือนรุ่นเก่า
- โหมด Sport เปิดใช้ด้วยสวิทช์
- เพิ่มความเร็วจาก 16 เป็น 20 เมตรต่อวินาที
- เพิ่มความเร็วการบินขึ้นและลง
- ปิดระบบการมองเห็น
- โหมด Sport เปิดใช้ด้วยสวิทช์
- TapFly แค่แตะหน้าจอระหว่างบิน Phantom ก็จะบินไปในทิศทางนั้นๆ
- ActiveTrack ติดตามวัตถุที่เลือกใน DJI GO
- Smart POI, Follow ME, Waypints , Home Lock, Course Lock
ระบบการมองเห็นและหลบหลีกสิ่งกีดขวาง
นับจากนี้ต่อไป ระบบการตรวจจับวัตถุและหลบหลีกสิ่งกีดขวางคงจะเป็นคุณสมบัติมาตรฐานของโดรนในตลาด จากงาน CES 2016 ที่ผ่านมา โดรนของ Yuneec นั้นได้รับความสนใจจากสื่อมวลชนมากกับรุ่น Typhoon H ที่มีระบบ RealSense ของ Intel ซึ่งคาดว่าจะวางตลาดในช่วงกลางปีนี้
ภาพวิดีโอตัวอย่างนั้นดูน่าสนใจมาก และแสดงให้เห็นถึงการใช้งานในการหลบหลีกวัตถุต่างๆ แต่กับราคาระดับ แสนกว่าบาทหลายคนอาจจคิดมากหน่อย
กลับมาที่ Phantom 4 การใช้ระบบกล้องสองตัวมาใช้ในการจับภาพ แสดงให้เห็นว่าทาง DJI ได้พยายามเป็นอย่างมากในการนำมาใช้กับโดรนขนาดเล็กนี้ และจากการที่ทาง DJI จะส่งมอบสินค้าก่อน Typhoon แสดงให้เห็นว่า DJI นั้นล้ำหน้าขนาดไหน
ทั้งนี้ทาง DJI ยังไม่ได้เปิดเผยว่าเทคโนโลยีนี้คืออะไรหรือเป็นของใคร แต่จากการสาธิตให้ดู ถือได้ว่าเป็นระบบที่ซับซ้อนมาก ในโหมดการบินแบบแมนน่วล Phantom 4 จะหยุดก่อนที่มันจะชนกับสิ่งที่อยู่ข้างหน้า แต่ในกรณีให้มันบินอัตโนมัติอย่าง TapFly หรือ ActiveTrack แล้วละก็ Phantom 4 จะหลบหลีกสิ่งกีดขวางและจะหาทางบินไปปลายทางจนได้
ผมเองก็ไม่ได้ลองโหมดนี้ด้วยตัวเอง แต่จากการดูวิดีโอแล้วดูเหมือนว่ามันทำงานได้ดีทีเดียว โดยเฉพาะอย่างยิ่งโหมด ActiveTrack ซึ่งทำให้นักบินโดรนสามารถเลือกวัตถุโดยการลากกรอบสี่เหลี่ยมครอบมัน
เนื่องจาก Phantom สร้างแผนที่ความลึกด้วยกล้องสองตัวที่ว่า มันจึงสามารถหาวัตถุที่ใกล้ที่สุดในกรอบที่เรากำหนดได้ Phamtom 4 ก็จะรู้ด้วยว่าคุณเลือกตัวบุคคล เพราะมันจะได้รู้ว่ามันจะต้องทำอย่างไรเมื่อคนๆนั้นเปลี่ยนทิศทาง
เมื่อคุณเลือกวัตถุหรือคนที่ต้องการแล้ว แค่กดอีกทีที่คำว่า Go เจ้า Phantom 4 ก็ตจะตามวัตถุนั้นไปรอบๆ เนื่องจาก Phantom 4 รู้ว่าสิ่งนั้นเป็นมนุษย์ และจะรับรู้ถึงสภาพการเคลื่อนไหวอย่างการเดิน วิ่ง หรือปั่นจักรยาน ผมเคยได้เห็นมีคนลองพยายามหลบซ่อนจาก Phantom 4 วิธีเดียวที่จะทำได้ก็คือการซ่อนหลังวัตถุบางชนิดให้นานพอ หากไปซ่อนแค่แป้บๆ Phantom 4 ก็จะล้อคเป้าหมายใหม่เมื่อคนๆนั้นเริ่มโผล่มาบนหน้าจออีก
ระหว่างการติดตามวัตถุ นักบินสามารถบินจากด้านหนึ่งไปยังอีกด้านหนึ่งได้ หรือบินวนรอบๆนั่นเอง รวมทั้งบินขึ้นบินลงได้ด้วย ระหว่างนั้น Phantom 4 ก็จะพยายามหลบเลี่ยงสิ่งกีดขวางไปด้วย โดยการบินหลบสิ่งกีดขวางนั้น แต่มันจะหยุดบินหากวัตถุแปลกประหลาดนั้นใหญ่เกินไป
สิ่งที่ควรระวังก็คือ หากมีการบินติตตามแล้วบินวนรอบๆ Phantom 4 อาจจะชนกับสิ่งกีดขวางได้เนื่องจากมันมีกล้องเฉพาะด้านหน้าเท่านั้น การบินถอยหลังเลยอาจจะต้องระวังหน่อย
Typhoon H อาจจะมีประสิทธิภาพในการหลบหลีกที่ดีกว่าเนื่องจากมันอาจจะหันหน้าไปฝั่งที่บิน แต่ยังหันกล้องกลับมายังวัตถุที่มันกำลังติดตามอยู่ได้ แต่ก็ยังไม่มีใครรู้ว่าระบบของ Typhoon จะดีขนาดไหนหากมาใช้งานจริง จึงจะยังเปรียบเทียบได้ไม่ชัดเจนนัก แถมราคาก็แพงสองเท่าของ Phantom 4 อีกด้วย
ระบบการมองเห็นนี้ ถือเป็นระบบแรกที่มีวางขายให้กับตลาดทั่วไป เนื่องจากเป็นระบบที่อยู่ในโดรน ดังนั้นเราก็อาจจะไม่ถึงกับคาดหวังอะไรกับมันมาก โดยทั่วไปแล้วหากสภาพใดๆก็ตามหลอกสายตาคุณได้ มันก็อาจจะหลอกโดรนให้สับสนได้เช่นกัน สิ่งที่อาจจะตรวจจับไม่ได้ก็คงเป็นกรณีการย้อนแสง แก้ว กระจก ลวดบางๆ และกิ่งไม้เล็กๆ แต่ถือว่าระบบนี้ทำงานได้อย่างน่าประทับใจ คาดว่าอีกไม่นานเราคงได้เห็นระบบการมองเห็นที่พัฒนาได้ดีขึ้น จนอาจจะมีความสามารถมองเห็นได้ดีกว่ามนุษย์ก็เป็นได้
ด้วยหลายๆเหตุผลด้านบน สำหรับผมแล้ว การที่ผมอยากอยากจะซื้อ Phantom 4 ก็คงเป็นเรื่องของโหมด Sport ที่มีมาให้ด้วย เพราะผมอยากได้ความสามารถในการบินเข้าหา หรือบินออกห่างจากตำแหน่งที่กำหนดได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งรุ่นก่อนๆไม่สามารถทำได้
แล้วคุณหละอยากซื้อ Phantom 4 เพราะเหตุผลใดเป็นหลัก
รีวิวและภาพประกอบจาก http://www.echeng.com
Leave a comment
You must be logged in to post a comment.