รีวิวโดรน Yuneec Typhoon Q500 4K
รีวิวโดรน Yuneec Typhoon Q500 4K
Yuneec เองนั้นผลิตโดรนมาวางขายนานแล้ว แต่เหมือนจะหลบๆมุมให้ DJI นำตลาดอยู่ แต่ใช่ว่าความนิยมใน Yuneec จะไม่มีซะเลยทีเดียว ทาง Yuneec เองมีประสบการณ์ในการผลิตเครื่องบินบังคับวิทยุมากว่า 15 ปีแล้ว และตอนนี้ก็มีโดรนหลากหลายรุ่นออกมาวางขายให้ได้เลือกกัน
เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา Yuneec ได้ปล่อยรุ่น Q500 Typhoon 4K ออกมาวางตลาด ซึ่งถือเป็นโดรนระดับ 4K ตัวแรกๆที่ออกมาสำหรับนักบินสมัครเล่น ราคาก็ไม่ได้ถือว่าสูงมากอยู่ที่ราวๆ 40,000 บาท ซึ่งมาด้วยคุณสมบัติโดดเด่นต่างๆมากมายเพื่อให้การถ่ายภาพทางอากาศเป็นเรื่องง่ายๆ เพื่อจะดูว่าทุกอย่างสมราคาค่าคุยหรือไม่ เราเลยได้ถือโอกาศลองโดรน Yuneec พร้อมกล้อง 4K ตัวนี้แล้วมาเล่าให้ฟังกันนะครับ
คุณสมบัติเด่น
Yuneec Q500 นั้นส่งถึงความรู้สึกเหมือนได้ของขวัญปีใหม่สมัยเด็กๆในเวลาแกะกล่องแล้วไม่รู้ว่าด้านในกล่องจะเป็นอย่างไร กล่องยาวฟุตกว่าๆ และสูงราว 20 เซ็นติเมตร นำหนักของ Q500 นั้นเพียงแค่ 4 ปอนด์เท่านั้น หรือเกือบๆ 2 กิโลกรัมหากรวมทั้งแบตและอุปกรณ์ต่างๆครบครันรวมถึงตัวชาร์ชไฟด้วย โดยมันมาพร้อม 16GB SD การ์ดพร้อมวิดีโอแนะนำ ตัวคอนโทรลเลอร์ ST10+ Personal Ground Station และกล้อง 4K
แม้ Q500 จะซับซ้อนแต่ก็ใช้งานง่ายแม้นักบินสมัครเล่นก็จะยังสามารถผลิตวิดิโอมืออาชีพออกมาได้ กล้องติดตั้งอยู่บน Gimbal ที่ปรับได้ 3 แกน ที่สามารถถ่ายภาพได้ทั้งแนวนอน หรือกดมุมกล้องลงต่ำได้ 90 องศา แม้โดรนรุ่นใหม่หลายๆยี่ห้อเริ่มจะมีคุณสมบัติในลักษณะนี้แล้วก็ตาม แต่ก็ถือว่าเป็นเรื่องใหม่ เลยทำให้ Q500 นำหน้าคู่แข่งไปหลายขุม
นอกจากประเด็นการหมุนกล้องแล้ว โดรนตัวนี้ยังมาพร้อมโหมดการบินอัติโนมัติอย่าง Follow Me ซึ่งจะบินตามคนถือคอนโทรลเลอร์ และโหมด Watch Me ซึ่งจะคงมุมกล้องไปที่นักบินขณะที่โดรนบินไปรอบๆ ไม่ว่าจะใกล้จะไกล บินอยู่มุมไหน การโฟกัสอัตโนมัติก็จะทำให้ได้ภาพที่คมชัดตลอดเวลา เลยทำให้การถ่ายภาพต่างๆทำได้ง่ายดาย
ในส่วนของคอนโทลเลอร์ ST10+ ทีมากับ Q500 นั้นจะมี joysticks ปุ่มควบคุมและปุ่มตั้งค่าต่างๆครบครันในการที่จะทำให้การบินและลงจอดเป็นไปได้อย่างราบรื่น และมาพร้อมจอภาพชัดแจ๋วขนาด 5.5 นิ้วแบบสัมผัส และส่งภาพจากกล้องสดๆมาตลอดเวลา โดยนอกจากจะชมภาพเหมือนที่โดรนเห็นแล้ว ยังแสดงข้อมูลแบตเตอร์รี่ ความสูง ระยะห่างจากตัวคอนโทรลเลอร์ ความเร็ว และสถานะ GPS อีกด้วย
คุณภาพวัสดุและความทนทาน
สิ่งแรกที่เราเห็นหลังจากดึงเอาตัวเครื่องออกจากวัสดุห่อหุ้มก็คือ วัสดุที่ดูดีและแข็งแรง ตัวเครื่องดูแข็งแรงและแขนที่พร้อมสำหรับรับงานหนัก แม้ขาของโดรนเองก็ดูแน่นหนึบซึ่งหาได้ยากสำหรับโดรนขนาดนี้
หลังจากลองขึ้นบินและลงจอดไปหลายชั่วโมง Q500 ก็ยังดูใหม่เหมือนเพิ่งแกะกล่องออกมา เมื่อเวลาผ่านไปเรามักจะพบว่าแผ่นโฟมที่ยึดติดไว้กับปลายขาทั้งสองจะมีสึกหรือไปปบ้าง แต่หลังจากเราได้ลองบินไป 20 – 30 เที่ยวพบว่ามันยังอยู่มั่นในตำแหน่งเดิม
ดังนั้นหากพิจารณาในประเด็นราคากับคุณภาพของวัสดุแล้ว จะพบว่า Q500 นั้นเป็นตัวสุดยอดในระดับราคานี้เลยก็ว่าได้
อายุแบตเตอร์รี่ และ เวลาในการชาร์ช
เนื่องจากเรารีวิวตัวที่แพงสุดของ Q500 ซึ่งมาพร้อมแบตเตอร์รี่ขนาด 5,400 mAh ลิเธียมโพลิเมอร์ ซึ่งน่าจะให้เวลาบินที่ประมาณ 25 นาที กับการบินนิ่ง ณ ตำแหน่งใดตำแหน่งหนึ่ง แต่หากเราบินไปมาพร้อมถ่ายวิดีโอไปด้วย เวลาก็จะลดลงเหลือราว 20 – 21 นาที
แต่หากบินในโหมด Follow Me หรือ Watch Me ตลอดเวลา อายุแบตต์ก็จะเหลือต่ำกว่า 20 นาทีเล็กน้อย
พอหมดเวลาสนุกที่ราว 20 นาที ก็ถึงเวลาเปลี่ยนแบตต์แล้วก็บินใหม่อีกรอบกรณีที่มีแบตต์สำรอง ตัวคอนโทรลเลอร์เองก็จะบอกสถานะแบตต์ โดยแสดงโวลเทจ ความจุที่เหลือ และเตือนออกมาเป็นระยะๆเมื่อแบตต์เริ่มเหลือน้อย ความจริงแล้วเมื่อเริ่มมีเสียงเตือนก็ควรจะเริ่มหาทางลงจอด แต่จริงๆแล้วก็สามารถบินได้ต่อจนค่าตำกว่า 10.7V โน่นแหละถึงจะค่อยเริ่มรู้สึกเหงื่อแตก
การชาร์ชแต่ละครั้งนั้นใช้เวลาราวๆ 2 ชั่วโมง ซึ่งถ้าต้องให้รอ 2 ชั่วโมงแล้วมาบินเล่นได้แค่ 20 นาทีก็คงไม่สนุกเท่าไหร่ การซื้อแบตต์สำรองมาด้วยเลยเป็นสิ่งที่ควรทำอย่างยิ่ง อุปกรณ์ชาร์ชแบตต์จากรถยนต์ที่มีมาให้ด้วยก็ถือว่ามีประโยชน์มาก เพราะไม่จำเป็นต้องวิ่งกลับไปชาร์ชแบตต์ที่บ้านทุกครั้ง
แต่สำหรับตัวคอนโทรลเลอร์ ST10+ แล้วละก็ หากแบตต์หมดก็อาจจะต้องรอนานหน่อย เพราะมันใช้เวลาราวๆ 5 ชั่วโมงครึ่งกว่าที่ตัวคอนโทรลเลอร์จะชาร์ชได้เต็ม คุณอาจจะชาร์จจากไฟบ้านหรือจาก USB ก็ได้
ประสิทธิภาพการบิน การควบคุมและโหมดอัตโนมัติ
จะว่าไปแล้วประสิทธิภาพการบินของ Q500 นั้นถือว่าคุ้มค่าแห่งการรอคอย โดยนอกจากโหมดอัตโนมัติจะทำให้การบินเป็นเรื่องง่ายที่สุดเท่าที่เราเคยเจอแล้ว เราพบว่าการใช้งาน Joystick นั้นทำให้การควบคุมการบินเป็นไปอย่างธรรมชาติมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับคนเพิ่งหัดเล่นโดรน ด้วยเหตุนี้ ทำให้เราแทบไม่ต้องฝึกซ้อมอะไรมาก่อนเลยในการที่จะบินเจ้า Q500 ตัวนี้
แค่โยก Joystick ด้านซ้ายขึ้นบน เพียงแค่ไม่กี่วินาที Q500 ก็จะเริ่มออกบินและลอยขึ้นไปตราบเท่าที่คุณยังดันมันขึ้นไป เมื่อปล่อย Joystick ระบบ GPS ของเครื่องจะทำให้โดรนบินนิ่งอยู่กับที่ น้อยครั้งที่ลมแรงๆจะพามันออกไปจากจุดที่มันอยู่นิ่ง
การควบคุมการบินก็ตรงไปตรงมา ด้วย Joystick อันขวาจะทำให้ Q500 เครื่องที่ไปด้านหน้า (โยกขึ้น) ไปด้านหลัง (โยกลง) ไปซ้าย (โยกซ้าย) ไปขวา (โยกขวา) หลังจากบินไปสองสามนาที จะพบว่าการควบคุมการบินเหมือนเป็นเรื่องปกติท้่วไป การตอบสนองที่รวดเร็ว การโยก Joystick เพียงเล็กน้อยเหมือนว่าโดรนจะตอบสนองในทันที
สำหรับโหมดการบินอัตโนมัติทั้งสองโหมดนั้นถือว่าสุดยอดมากสำหรับนักบินมือใหม่ เราลองทดสอบ Follow Me มันจะบินห่างจากเราราวๆ 6 – 7 เมตร ส่วน Wath Me ไม่ว่ามันจะบินไปทิศทางไหน กล้องก็จะจับอยู่ที่คนถือคอนโทรลเลอร์ตลอดเวลา
จากข้อมูลสเปคพบว่า Q500 4K จะบินที่ความเร็วสูงสุด 27 กม/ชม เมื่ออยู่ใน Angle Mode และจะบินได้เร็ว 35 กม/ชม เมื่ออยู่ในโหมดอัตโนมัติ ซึ่งจากการทดสอบพบว่าเราบินได้ความเร็วใกล้เคียงกับที่ระบุไว้ในสเป็ค
คุณสมบัติต่างๆของ Q500 นั้นถือได้ว่าน่าประทับใจเป็นอย่างยิ่ง แต่โหมดการบินอัตโนมัติอาจจะดูเหมือนมันฉลาดเกินไปซักหน่อย หลังจากบินมันไปซักพักแล้วสั่งผ่าน ST10+ ให้มันบินกลับอัตโมมัติ โดรนก็จะเริ่มบินลงอย่างปกติทั่วไป และมันก็ควรจะบินลงจอดให้ห่างจากนักบินในระยะที่ปลอดภัย แต่มันพยายามหนีนักบินที่ถือคอนโทรลเลออยู่จนกระทั่งบินเข้าไปชนกับโคนต้นไม้ใกล้ๆ
แน่นอนว่าการชนในลักษณะนี้นั่นหลีกเลี่ยงได้หากเราดูสภาพแวดล้อมเราให้เหมาะสม เราจึงควรระลึกไว้เสมอเวลาลงจอดว่า ระบบการลงจอดอัตโนมัติมันจะพยายามหลบนักบิน แต่ดีไม่ดีมันอาจจะชนกับสิ่งอื่นๆที่อยุ่ในบริเวณนั้นก็ได้
ตัวกล้อง อุปกรณ์เสริม และการอัพเกรดในอนาคต
แน่นอนว่าด้วยชื่อ 4K ต่อท้าย รุ่น Q500 ตัวนี้เลยยกประเด็นของกล้องออกมาให้เราได้เห็นกันชัดๆ กล้องที่ว่านั้นก็คือ CG03 ซึ่งมาพร้อมเลนซ์มุมกว้าง 115 องศา พร้อมภาพขนาด 1080p FullHd และภาพระดับ 4K ที่ความเร็ว 30 เฟรมต่อวินาที
การตั้งค่ากล้องสามารถทำได้ผ่าน ST10+ คอนโทรลเลอร์ หรือหากเป็นนักบินหน้าใหม่ก็อาศัยการตั้งค่าอัตโนมัติก็ได้ จากการทดลองของเราโหมดนี้ก็ให้ภาพได้สมบูรณ์เพียงพอแล้วสำหรับนักบินหน้าใหม่
หลังจากบิน Q500 ได้สูงซัก 50 เมตรจากพื้นเราก็ลองถ่ายภาพแบบพาโนรามาออกมาเพื่อจะดูว่ากล้อง CG03 ทำอะไรได้แค่ไหน เราพบว่าไม่เพียงแต่จะให้ภาพที่คมชัดแล้ว รายละเอียดของภาพที่ออกมานั้นถือว่าสุดยอด และเมื่อลองปรับมุมกล้องขึ้นลงดู จะพบว่าสามารถ่ายได้ทั้งแนวนอนแล้วลดมุมลงมาเป็นแนวดิ่งได้อย่างลื่นไหลเพียงแค่เศษเสี้ยววินนาที
หากคุณไม่เล่น 4K ก็ยังสามารถบันทึกวิดิโอในแบบสโลโมชั่นได้ที่ 1080p ที่ 120 เฟรมต่อวินาที การเปลี่ยนมาเป็นโหมดสโลโมชั่นนั้นก็ทำได้ง่ายๆแค่ปลายนิ้วผ่านตัวคอนโทรลเลอร์ได้เลย
การออกแบบของ Q500 นั้นมาพร้อมกับความสามารถในการอัพเกรดอุปกรณ์ต่างๆได้อย่างหลากหลาย ทั้งจาก yuneec เอง หรือจากผู้ผลิตรายอื่น ทำให้ไม่ต้องกังวลว่าจะต้องซื้ออะไรแพงๆเสมอไป
บทสรุป
หลังจากลองเล่น Q500 มาได้ซักสองสัปดาห์ ก็ต้องขอบอกว่าน่าประทับใจทีเดียว พูดง่ายๆว่ามันมีทุกอย่างที่คุณจะคาดหวังได้จากโดรน มาพร้อมคอนโทรลอัจฉริยะที่ได้รับการออกแบบมาให้บินได้ง่าย ถือว่าสูสีกับคู่แข่งที่วางตลาดอยู่ในขณะนี้
ถ้าคุณกำลังมองหาโดรนไว้ถ่ายภาพทางอากาศแล้วละก็ Q500 พร้อมกล้อง 4K ตัวนี้นับว่าเป็นหนึ่งในโดรนที่ควรพิจารณา พร้อมโหมดการบินอัตโนมัติที่ใช้งานง่าย แต่ในประเด็นราคานั้นไม่ได้ถือว่าถูกกว่าใคร รอจังหวะลดราคาแล้วอาจจะลองหามาไว้ครอบครองก็น่าสนใจอยู่นะครับ
เรียบเรียงจาก http://www.digitaltrends.com
Leave a comment
You must be logged in to post a comment.