บริษัทอาจจะหันมาใช้ปัญญาประดิษฐ์ เพื่อตรวจจับคนขโมยไฟฟ้าใช้
บริษัทอาจจะหันมาใช้ปัญญาประดิษฐ์ เพื่อตรวจจับคนขโมยไฟฟ้าใช้
การเปลี่ยนมาใช้ระบบปัญญาประดิษฐ์ (AI – Artificial Inelligence) นั้นได้ทำให้ทาง google ประหยัดเงินไปเป็นจำนวนมากสำหรับค่าไฟ และเหมือนว่าระบบ Machine Learning ก็น่าจะให้ผลตอบแทนทางการเงินที่ดีสำหรับผู้ให้บริการไฟฟ้าด้วยเช่นกัน
นั่นเพราะการขโมยไฟฟ้าใช้นั้นเป็นปัญหากันทั่วโลก บริษัทผู้ให้บริการไฟฟ้าอาจจะประหยัดเงินได้เป็นจำนวนมหาศาลจากการใช้ระบบ AI ในการตรวจจับผู้ลักไฟฟ้าใช้
ทีมนักวิจัยจากมหาวิทยาลัย Luxembourg ได้พัฒนาอัลกอริทึมที่จะตรวจสอบข้อมูลการใช้ไฟฟ้าของผู้ใช้แต่ละรายและตรวจสอบหาความผิดปกติที่อาจจะเกิดขึ้น
พวกเขาได้ให้ระบบนี้ทำการประมวลผลข้อมูลครัวเรือนจำนวน 3.6 ล้านครัวเรือนของประเทศบราซิลในช่วงระยะเวลา 5 ปีที่ผ่านมา ด้วยข้อมูลการอ่านมิเตอร์ค่าไฟประมาณ 200 ล้านรายการในแต่ละเดือน อัลกอริทึมของพวกเชาได้เปิดเผยข้อมูลที่ผิดปกติมากกว่า 65% ซึ่งทางทีมงานเชื่อว่าเป็นวิธีการที่ดีกว่าวิธีอื่นๆมาก
บริษัทด้านการจัดการพลังงานอัจฉริยะจึงมีแนวคิดที่จะนำระบบ AI เข้ามาใช้กับระบบซอฟแวร์ทางการค้าเพื่อที่จะนำมาใช้งานในย่านประเทศแถบแอฟริกาใต้
ประเทศบราซิลถือเป็นประเทศหนึ่งที่ประสบปัญหาเป็นอย่างสูงกับการสูญเสียไฟฟ้าไปกับกรณีที่ไม่ใช่ด้านเทคนิค โดยการสูญเสียมักจะเกิดจากการขโมยไฟฟ้าใช้ การฉ้อโกง ส่งบิลผิดพลาดและกรณีอื่นๆ
และเพื่อเป็นการควบคุมปัญหาดังกล่าว บริษัทที่เป็นผู้นำในการให้บริการไฟฟ้าอย่าง Electrobras ได้เปิดตัวโครงการป้องกันการขโมยไฟฟ้าใช้เมื่อเร็วๆนี้ซึ่งเป็นโครงการที่ได้รับการสนับสนุนจากธนาคารโลาก
โดยทางบริษัทได้อ้างว่าประมาณ 22 เปอร์เซ็นต์ของไฟฟ้าที่ผลิตได้ทั้งประเทศนั้นจะถูกขโมยหรือหายไปจากระบบ ซึ่งความจริงแล้วไม่ใช่แค่บราซิลอย่างเดียว แม้แต่ประเทศอังกฤษเองการขโมยไฟฟ้าใช้ทำให้บริษัทไฟฟ้าต้องเสียรายได้ไปราว 440 ล้านปอนด์ในแต่ละปี
ขณะที่อินเดียเองเมือง Uttat Pradesh เสียพลังงานไฟฟ้าไปราว 31% ไปด้วยวิธีการที่ไม่ถูกต้องเมื่อปี 2016
ที่มา Engadget.com
ภาพประกอบจาก MEA