รีวิว Karma Drone จาก Gopro ทดลองบินในวันเปิดงาน
รีวิว Karma Drone จาก Gopro ทดลองบินในวันเปิดงาน
ช่วงนี้อาจจะมีการนำเสนอเรื่องราวของ Karma โดรน บ่อยๆ เนื่องจากว่าปัจจุบันเรามีผู้เล่นในตลาดโดรนเยอะทั้งในแง่ของผู้บริโภคและผู้ผลิต การแข่งขันในแวดวงนี้จึงมีมาก เมื่อ Gopro ในฐานะผู้ผลิตกล้องแอ้คชั่นแคมชื่อดังกระโดดลงมาในสนามนี้ด้วย ทำให้เรื่องของโดรนมีความร้อนแรงมากขึ้น วันนี้เลยถือโอกาสหยิบรีวิวอันหนึ่งมาให้อ่านกันนะครับ โดยเป็นรีวิวในวันเปิดงาน เพราะตัวโดรนเองยังไม่ได้วางจำหน่ายในตอนนี้ไม่ว่าในไทยหรือในอเมริกา
หลายคนต่างก็รอคอยกันอยู่ว่า Gopro จะตั้งราคาประมาณไหน ต่ำกว่า $1000 USD หรือไม่สำหรับโดรนเวอร์ชั่นแรก ซึ่งหลายคนก็ไม่ผิดหวังเมื่อราคาเปิดตัวอยู่ที่ประมาณ $800 USD ถือว่าราคากำลังเหมาะสมเลยทีเดียวสำหรับนักเล่นทั่วๆไป
โดรนตัวนี้สามารถบินได้ไกลสุดถึง 1 กิโลเมตร และสามารถบินด้วยความเร็วที่ประมาณ 57 กม/ชม (15 เมตรต่อวินาที) และมาพร้อมกับ gimbal แบบสามแกน
จากการทดลองบินของเรา เราไม่ได้ถึงขั้นทดสอบแบบโหดๆถึงกับทำให้เจ้า Karma Drone บินตกไปพร้อมๆกับกล้อง GoPro Hero 5 Black หรอกนะครับ ในช่วงระยะเวลาที่เราได้ลองเล่นอยู่ประมาณ 3 ชั่วโมงด้วยกัน แต่แน่นอนว่าเราก็ไม่ถึงกับได้บินทดสอบแบบโหดๆไปกับสภาวะลมแรงๆแต่อย่างใด
จะว่าไปแล้วนักบินไม่ว่าหน้าใหม่หรือเชี่ยวชาญต่างก็สามารถเอาชนะอารมณ์การขึ้นบินครั้งแรกได้อย่างสบายๆ ทั้งนี่สิ่งที่ช่วยให้การบินทำได้โดยง่ายน่าจะเป็นเพราะตัวคอนโทรลที่ถูกออกแบบมาให้เป็นลักษณะคล้ายๆกับเครื่องเล่นเกม มันดูคุ้นเคยพร้อมปุ่มต่างๆครบครัน
และด้วยจอขนาด 5 นิ้วที่ติดตั้งมาด้วย ตัวคอนโทรลเลอร์ตัวนี้จึงไม่เหมือนกับที่เห็นมาคู่กับ DJI Phantom 4 นั่นเพราะคุณไม่ต้องพึง iPad ในการที่จะบินเจ้าโดรนตัวนี้พร้อมๆกับการดูภาพไปด้วย
เราสามารถพับแขนทั้งสี่แล้วบรรจุลงในกล่องที่ให้มาด้วย และทำให้การพกพาไปไหนๆ ทำได้อย่างสบายๆ พร้อมลูกเล่นมากมาย แถมยังสามารถถอดเจ้า Gimbal เอามาไว้ถ่ายวิดีโอแบบไม่สั่นไหวได้ด้วย
ตอนเปิดตัวทาง GoPro บอกว่า มันเป็นมากกว่าโดรน ซึ่งก็จริงของเขา ดูเหมือนว่าเป็นการสร้างแนวคิดใหม่ให้กับวงการโดรน เราก็คงต้องดูกันต่อไปว่าทาง GoPro จะพัฒนาไปในทิศทางไหน แม้จะออกตัวช้ากว่าคู่แข่งอยู่หลายปีก็คาม
Gopro Karma Drone จะวางขายเมื่อไหร่
การเปิดขายอย่างเป็นทางการจะเริ่มในวันที่ 23 ตุลาคม 2559 นี้ ซึ่งจะวางขายเฉพาะในอเมริกาเท่านั้น ส่วนตลาดอื่นๆ ก็จะทยอยตามมาเรื่อยๆ ไปจนถึงต้นปีหน้า ทั้งนี้โดรนพร้อม GoPro Hero 5 Black นั้นจะมีขายทันที ส่วน Karma Drone กับ กล้องรุ่น Session นั้นจะวางขายในเดือนมกราคมเป็นต้นไป
การออกแบบ
Karma Drone นั้นแตกต่างจากยี่ห้อดังๆในตลาดเจ้าอื่นๆตอนนี้ เนื่องจากมันพกพาสะดวก โดยคุณสามารถพับแขนมันทั้งสี่ด้านแล้วยัดเข้าไปในกระเป๋าขนาดมาตรฐานได้ทันที ซึ่งความกระทัดรัดไม่ใช่เรื่องปกติสำหรับโดรนราคาแพงแบบนี้
แขนใบพัดทั้งสี่จะมีการพับเข้าหาตัว และขาจอดจะมีการพับขึ้นมาแนบชิดกับลำตัว และคุณยังสามารถเอาใบพัดออกอีกได้ด้วยหากต้องการประหยัดพื้นที่เข้าไปอีก
ขนาดลำตัวเมื่อกางแขนเต็มที่นั้นจะอยู่ที่ 303 x 411 x 117 มิลลิเมตร และหากพับไว้ก็จะมีขนาดเพียง 365 x 224 x 90 มิลลิเมตรเท่านั้น น้ำหนักก็เพียง 1.006 กิโลกรัมเท่านั้น
สำหรับระบบป้องกันภาพสั่นใหวและอุปกรณ์ติดตั้งจะอยู่ด้านหน้าของโดรนและสามารถหมุนไปมาได้ 90 องศาขึ้นลง ส่วนการหมุนซ้ายขวาก็จะเป็นการสั่งให้โดรนบินหมุนไปเอง
จุดเด่นคือการที่จะสามารถถอดเจ้าระบบป้องกันการสั่นหรือ Gimbal แล้วนำมันไปยึดติดกับ Karma Grip เพื่อการถ่ายภาพแบบพกภาได้ โดยมันจะอุปกรณ์แยกต่างหากและมีแบตเตอร์รี่ในตัว และแถมมาให้พร้อมกับตัวโดรน
โดรนทั้งลำจะมีออกแนวสีขาวดำ พร้อมขาตั้งสีดำด้านซึ่งพร้อมรับแรงกระแทกในการลงจอด และด้านล่างของแต่ละใบพัดก็จะมีไฟสี โดยด้านหน้าสองแขนจะเป็นสีเขียว และอีกสองแขนด้านหลังจะเป็นไฟสีแดง มันมีไว้เพื่อวัตถุประสงค์ในการบอกทิศทางว่าโดรนกำลังหันหน้าไปทางไหน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเวลาบินไกลๆ หรือบินสูงๆย้อนแสงอาทิตย์
ประสิทธิภาพการบิน
การลองบังคับบิน Karma Drone นั้นถือเป็นเรื่องไม่ยุ่งยากนัก ต้องยกความดีให้กับการที่ตัว คอนโทรลเลอร์ที่มีจอมาให้พร้อมแล้ว อีกอย่างก็คือการออกแบบ joystick ที่ให้ความรู้สึกเหมือนกำลังเล่นวิดีโอเกมส์นั่นเอง ปุ่มตรงกลางนั้นจะมีไว้สำหรับการขึ้นบิน และบังคับลงจอด ซึ่งทำให้กระบวนการนี้ทำงานอัตโนมัติโดยเราไม่ต้องไปกังวลอะไรมาก ส่วนปุ่มตรงบริเวณประมาณหัวไหล่ของตัวคอนโทรลเลอร์นั้นจะมีไว้เพื่อการควบคุมการทำงานของกล้อง
แม้ในสภาวะลมแรง เราก็ยังสามารถควบคุมตัวโดรนให้นิ่งอยู่ได้ดี และภาพก็ออกมานิ่งดี การเชื่อมต่อระหว่างโดรนกับคอนโทรลเลอร์ก็ไม่มีอะไรขาดตอน ซึ่งที่ผ่านเรื่องนี้เป็นปัญหาหลักสำหรับโดรนหลายๆรุ่นด้วยกัน
สิ่งที่ขาดไปของคอนโทรลเลอร์ของ Karma Drone ก็คงเป็นเรื่องสายอากาศภายนอก อันนี้น่าจะเป็นการออกแบบของ GoPro เองที่ต้องการให้ความรู้สึกถึงความกระทัดรัด แต่เท่าที่ลองบินดูก็ไม่ได้มีปัญหาการขาดหายของสัญญาณแต่อย่างใด
ปัญหาเดียวที่พบเจอก็คือ ความสว่างของจอขนาด 720p ตัวนี้ ที่ความสว่างอาจจะเหมาะสมกับสภาพโดยทั่วๆไป แต่กรณีของวันที่มีแสงแดดจ้าเช่นวันที่เราลองบินนี้ ทำให้เรามองภาพลำบากไปนิดเวลาหันไปเจอแสงอาทิตย์
เราคงต้องลองทดสอบต่อไปว่าระบบการเชื่อมต่อต่างๆมันจะยังคงลื่นไหลได้ดีตลอดเวลาหรือไม่ จากการทดสอบของเราที่ผ่านมาก็ยังไม่มีปัญหาอะไร ภาพที่ได้มามันนิ่งเหลือเชื่อว่าเป็นภาพที่ถ่ายในภาวะลมแรงขนาดนั้น
ระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบพกพา
เมื่อถอดระบบป้องกันภาพสั่นไหวออกจากตัวโดรน แล้วเสียบเข้ากับอุปกรณ์ Karma Grip ที่ให้มา คุณก็พร้อมที่จะนำเจ้ากล้อง GoPro พร้อมระบบ Gimbal ตัวนี้ติดตัวไปถ่ายภาพได้กับทุกสถานการณ์
GoPro นั้นดำเนินการต่างจากคู่แข่งอย่าง DJI ที่ทำระบบต่างหากออกมาแล้วแยกขายต่างหาก แต่สำหรับ GoPro แล้ว ซื้อทีเดียวได้สองอย่างพร้อมกัน ถือเป็นการสร้างปรากฏการณ์ใหม่ในตลาดโดรนเลยก็ว่าได้
การทดสอบด้วยการล้อคกล้องไปในทิศทางเดียวนั้นทำให้ภาพนั้นนิ่งมากในทิศทางที่กล้องหันไป แม้ตัวคุณจะกำลังเดินหรือเลี้ยวไปมาภาพก็ยังนิ่งมาก แม้จะมีการปลดล้อคระหว่างถ่ายภาพและหมุน Grip เล็กน้อย ภาพก็จะหมุนไปอย่างนุ่มนวลอีกด้วย
อายุแบตเตอร์รี่
จากสเป็คของเครื่องระบุว่า แบตเตอร์รี่ของ Karma Drone จะทำให้คุณบินได้ประมาณ 20 นาทีก่อนที่มันจะหมดแบตต์และอยากจะกลับมาลงจอด การชาร์ชใหม่จะใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงตามที่ทางบริษัทระบุไว้
แน่นอนว่าเราสามารถพกพาแบตเตอร์รี่หลายก้อนเพื่อถอดเปลี่ยนได้ และกลอ่งใส่โดรนเองก็มีพื้นที่เหลือสำหรับแบตต์สำรอง โดยตัว Grip เองจะบรรจุอยู่ในกล่องแต่รัดไว้กับด้านข้างของด้านในตัวกล่อง
แบตเตอร์รี่อื่นๆที่เราคงต้องคำนึงถึงก็คงเป็น แบตต์ในตัวคอนโทรลเลอร์ซึ่งสเป็คระบุว่าสามารถใช้ได้นานถึง 4 ชั่วโมง และการชาร์ชแต่ละครั้งใช้เวลา 2.5 ชั่วโมง ส่วนแบตต์ในตัว Grip จะอยู่ได้นาน 1 ชั่วโมง 45 นาที และใช้เวลาชาร์ช 2 ชั่วโมง
คำตัดสินเบื้องต้น
Gopro Karma โดรน กำลังสร้างปรากฏการณ์ใหม่สำหรับตลาดโดรนพร้อมใช้ ด้วยขนาดที่กระทัดรัดและภาพที่นิ่งสนิทแม้จะบินสูงไปถึง 1000 เมตรก็ตาม
ในแง่ของราคาเมื่อเทียบกับสิ่งต่างๆที่ได้มา ไม่ว่าจะเป็น จอภาพแบบทัชสกรีนบนตัวคอนโทรลเลอร์ ระบบป้องกันภาพสั่นแบบพกพา พร้อมกระเป๋ามาให้พร้อม และหากรวมตัวกล้อง GoPro Hero 5 มาด้วย ถือว่านำโด่งในตลาด ณ ตอนนี้
ตัวคอนโทรลเลอร์เองได้รับการออกแบบมาให้ใช้งานง่าย แถมไม่ต้องกังวลกับแบตเตอร์รี่ของ iPad อีกต่อไป ทำให้เหมาะสำหรับนักบินหน้าใหม่เป็นอย่างยิ่ง
เราคงต้องทดสอบกันยาวๆ อีกซักพัก ยังมีอีกหลายประเด็นที่เราต้องทดสองกันจริงๆจัง ในสถานการณ์ต่างๆ ก็คงต้องรอจนถึงวันที่ 23 ตุลาคมโน่นแหละครับ ที่เราจะเอารีวิวการทดสอบ GoPro Karma Drone แบบจริงจังมาให้ได้อ่านกัน การทดสอบครั้งนี้ทาง GoPro ให้เวลาเราน้อยนิด ยังทำอะไรได้ไม่มาก ด้วยเพราะคิวยาวและมีสื่อมวลชนจำนวนมากรอทำข่าวอยู่
บทความและภาพประกอบจาก techradar.com