Tweet

Xiaomi Mi Drone รีวิวการทดลองใช้งานจากเมืองจีน

การเปิดตัวโดรนของ Xiaomi ยักษ์ใหญ่ด้านไอทีของจีนทำเอาผู้คนทั่วโลกฮือฮาพอสมควร ด้วยราคาโดรนขนาด 4K ที่ราคาต่ำกว่าครึ่งของคู่แข่งชื่อดังอย่าง DJI หรือราคาก็พอๆกับมือถือระดับกลางๆ เลยได้รับความสนใจจากคนเป็นจำนวนมาก มันทำให้คนที่อยากเล่นโดรนกะเขาบ้างจะได้มีโอกาสเล่นเสียที จากที่เคยมองว่าโดนเป็นของเล่นราคาแพงมานาน

คำถามสำหรับเราๆก็คือ Mi Drone จะทำให้เราเห็นโดรนเต็มท้องฟ้าบ้านเราหรือเปล่า วันนี้ผมก็ได้มีโอกาสไปร่วมงานเปิดตัวอย่างเป็นทางการของ Mi Drone ซึ่งจัดโดยทาง Xiaomi เองที่บริเวณ Yanxi Lack และก็พอจะได้จับต้องบ้างนิดหน่อยเลยเอามาเขียนเล่าให้ฟังกัน

ประสบการณ์ครั้งแรกกับโดรน Xiaomi และความคิดเห็น

เริ่มต้นสิ่งที่เห็นได้ชัดคือ Mi Drone รุ่นความละเอียด 1080p จะใช้แถบสีขาวกับส้ม ส่วนรุ่น 4K จะใช้แถบสีขาวและสีทอง สีเหล่านี้ถือเป็นสิ่งเดียวที่จะใช้ในการแยกแยะระหว่างรุ่น 4K และ 1080p หากเทียบโดรนสองรุ่นนี้จากภายนอก

หากมาดูที่ขนาดของเครื่องแล้วละก็ โดรนตัวนี้มีระยะจากใบพัดถึงใบพัดที่ 434 มม ซึ่งอาจจะดูใหญ่ไปหน่อย แต่ยังดีที่ว่าขาลงจอดนั้นพับได้ ทำให้ Mi Drone นั้นสามารถใส่ลงในกระเป๋าสะพายหลังที่มีขนาด 17 นิ้วขึ้นไปได้สบายๆ

ตัวป้องกันใบพัด ซึ่งมีหน้าที่หลักในการป้องกันใบพัดระหว่างการเอียงตัวลงจอด หรือการลงจอดบนพื้นที่ไม่เสมอกัน มันไม่ได้มีหน้าที่ป้องกันไม่ให้ใบพัดไปเฉี่ยวใครหรอกนะครับ อย่าไปคิดว่ามีตัวป้องกันสีแดงๆนี้แล้วมันจะไม่ไปทำให้ใครบาดเจ็บได้ จุดประสงค์ของมันไม่ใช่ประเด็นหลังนี้

ดูเหมือนว่าได้มีการทุ่มเทไปกับการพัฒนาตัวกล้องเป็นอย่างมาก หน้าตากล้องก็ดูดีทีเดียว ตัวมอเตอร์ของกล้องนั้นจะถูกซ่อนอยู่ภายในตัวกล้องเอง พร้อมมีคุณสมบัติในการป้องกันการสั่นในภาวะที่มีแรงต้านลมเวลาบินที่ความเร็วในระดับ 10 เมตรต่อวินาทีขึ้นไปอีกด้วย

กล้องนั้นสามารถถอดออกได้ แต่เสียดายที่ว่าเราไม่สามารถสับเปลี่ยนระหว่างกล้อง 4K และ กล้อง 1080p ได้ ได้มีการวางแผนการออกแบบเพื่อให้รองรับการอัพเกรดเพิ่มเติมในอนาคตได้เช่นสามารถนำกล้องไปไหนมาไหนได้ เปลี่ยนแปลงตัวยึดกล้อง ตัวรับแรงกระแทก รวมไปถึงการนำกล้องไปติดตั้งกับชิ้นส่วนอย่างอื่นเป็นต้น

นอกจากนี้แล้วด้านหลังกล้องยังมีช่องสำหรับเสียบ USB และใส่ Micro SD อยู่ใกล้ๆ กับช่องระบายความร้อนด้านหลังกล้อง

ส่วนหนึ่งที่เป็นหัวใจหลักของโดรนก็คงเป็นแบตเตอร์รี่ ซึ่ง Mi Drone ตัวนี้มาพร้อมกับแบตต์ขนาด 5100 mAh ซึ่งทาง Xiaomi อ้างว่าสามารถบินได้นานถึง 27 นาทีหลังจากชาร์ชแบตต์เต็มที่ เราก็คงต้องมาลองดูกัน

ผลการทดลองบิน Mi Drone

การทดลองบินของผมเองพบว่าบินได้ไม่เกิน 20 นาทีในช่วงทดลองบินในงานเปิดตัว ด้วยข้อจำกัดที่ว่า Mi Drone จะมีระบบภายในที่คุณจะต้องบินให้ครบ 300 นาที หรือ 5 ชั่วโมง ก่อนที่จะหลุดจากโหมด Beginner ไปยังโหมดการบินที่สูงกว่า ด้วยเหตุผลนี้ การที่เพิ่งจะบินได้เพียงไม่กี่นาที ทำให้ความเร็วในการบิน ความสูง การถ่ายภาพบางลักษณะจึงถูกจำกัดเอาไว้

ด้วยเหตุผลนี้ทำให้ประสบการณ์ในการบินกับ Mi Drone ของผมเป็นไปอย่างจำกัดมากเพราะยังบินไม่ครบเวลาที่จะเล่นลูกเล่นอื่นๆได้ จึงไม่อาจจะสรุปถึงประสิทธิภาพต่างๆของโดรนตัวนี้ได้เต็มปากนัก แต่โดยภาพรวมๆที่ได้บินมา ถือว่าการบังคับทิศทางบินไปมานั้นนิ่งพอสมควร ไม่ถึงกับจะเห็นว่าตัวโดรนจะสั่นมากนักตอนเจอลมแรงๆ

เมื่อเราปล่อย Joystick อย่างรวดเร็วระหว่างการบิน Mi Drone ก็ตอบสนองด้วยการลอยตัวนิ่งๆทันที ซึ่งถือเป็นสิ่งดี ความนิ่งตรงนี้อยู่ในระดับเดียวกับโดรน DJI Wizard 3 ที่ผมเคยเล่นก่อนหน้านี้ แถมยังดีกว่ายี่ห้ออื่นๆที่ไม่ค่อยโด่งดังเท่าไหร่อีกด้วย

เนื่องจากใน Beginner โหมดนั้นไม่สามารถใช้งานโหมด orbit, flying path plan และ fixed-point ได้ ผมเลยไม่สามารถไปลองเล่นมันได้ ผมลองดูโหมดกลับบ้านอัตโนมัติ ก็ได้ผลเป็นที่น่าพอใจ ตอนที่บินที่ระดับต่ำ โดรนจะบินในระดับความสูงจากพื้นประมาณ 10 เมตร แล้วก็บินกลับมาจอดที่เดิมได้อย่างแม่นยำ และใบพัดจะหยุดหมุนทันทีที่ลงจอดได้สนิทแล้ว

สิ่งต้องไม่ลืมหลังจากลองโหมดกลับบ้านอัตโนมัติแล้วก็คือต้องกดสวิทส์บนรีโมทกลับไปยังที่เดิม ไม่งั้นโดรนก็จะไม่สามารถบินขึ้นไปได้อีกครั้ง ตอนแรกก็งงๆว่าทำไมมันบินไม่ขึ้นอยู่เหมือนกัน

ในแง่ของการบินไปมา เสียดายที่โดนจำกัดด้วยโหมด Beginner ทุกอย่างเหมือนจะชักช้าไปหมด มันจะไม่เปลี่ยนตำแหน่งสูงขึ้นหรือต่ำลงได้อย่างหวือหวานัก แต่สำหรับคนเพิ่งหัดบินแล้วถือว่าเป็นการตั้งค่าที่ปลอดภัยดี จะได้ไม่ทำพังเสียตั้งแต่ต้นก่อนที่จะบินได้อย่างชำนาญ

หากบินได้ครบ 300 นาทีเมื่อไหร่ คงจะได้เล่นลูกเล่นต่างๆ แล้วนำมาบอกเล่าให้ฟังได้มากกว่านี้เป็นแน่ เสียดายจริงๆ ความจริงแล้วทาง Xiaomi น่าจะให้ลองเล่นเจ้าตัวที่บินได้เกิน 300 นาทีแล้วบ้าง แต่เขาคงกลัวโดรนพังหรือเปล่าก็ไม่รู้

สุดท้ายในประเด็นของกล้อง เราได้ลองรุ่น 1080P เท่านั้น ระบบควบคุมใช้ย่านความถี่ 2.4GHz ส่วนภาพจะถูกส่งมาในย่านความถี่ 5.8GHz ซึ่งไม่เหมือนระบบ 4K ที่จะใช้ระบบส่งภาพมืออาชีพอย่าง MIMO ซึ่งรวมสัญญาณทั้งสองเข้าด้วยกัน ทำให้สามารถควบคุมการบินได้ไกลถึง 3 กิโลเมตร ทำให้รุ่น 1080P นี้สามารถบินได้ไกลราวๆ 1 กิโลเมตรเท่านั้น

ในแง่ของคุณภาพของภาพแล้ว ขอบอกเลยว่าภาพความละเอียดขนาด 720p ที่ได้รับมานั้นมีความคมชัดดี แต่บางครั้งก็จะมีภาพเป็นเหลี่ยมๆแบบโมเสกหรือนิ่งสนิทเป็นบางครั้ง แต่เนื่องจากโหมด Beginner เราสามารถทดลองบินไปได้ไกลแค่ 150 เมตรเท่านั้น เลยไม่มีโอกาสได้เห็นว่าหากบินไกลกว่านั้นคุณภาพของภาพจะเป็นอย่างไร

ปัญหาเรื่องแผ่นดินไหวในญี่ปุ่นนั้น ทำให้รุ่นที่มีกล้อง 4K ต้องมีอันล่าช้าออกไป เนื่องจากเป็นการใช้เซ็นเซอร์ของ Sony ที่ผลิตในญี่ปุ่น กว่าจะผลิตและทดสอบและวางขายได้ก็คงต้องเลื่อนไปอีกระยะเวลาหนึ่ง

ขอจบรีวิวเบื้องต้นไว้แค่นี้ก่อนนะครับ ไว้ได้จับ Xiaomi Mi Drone ตัวจริงๆอีกครั้งเมื่อไหร่ แล้วบินได้ครับ 5 ชั่วโมงแล้วละก็ จะมาเล่ารายละเอียดให้ฟังกันอีกทีนะครับ

ภาพประกอบจาก xiaomitoday.com