DJI Phantom 4 Advanced รีวิว
DJI Phantom 4 Advanced รีวิว
หลังจากที่ทาง DJI เปิดตัวโดรนรุ่น Phantom 4 Advanced เมื่อไม่นานมานี้ ตอนนั้นถือเป็นข่าวที่สร้างความประหลาดใจให้กับวงการโดรนเป็นอย่างยิ่ง นั่นเพราะตอนนั้นมีโดรนที่น่าเล่นอย่าง Mavic Pro ซึ่งพับแขนได้ออกมาแล้ว และยังมี Phantom 4 และก็ Phantom 4 Pro ออกมาแล้วด้วย ดูเหมือนว่าวงการโดรนไม่อยากจะได้รุ่นใหม่ออกมาแล้วสร้างความสับสนในทางเลือกกันอีก
แต่ข่าวที่ออกมาก็คือ Phantom 4 Advanced (P4A) นั้นจะมาแทนที่ Phantom 4 ที่จะมีการยกเลิกการผลิตไป ก็ถือว่าโอเค จำนวนรุ่นยังเท่าเดิม ซึ่งหากมองผ่านๆแล้วจะพบว่าคุณสมบัติของรุ่นนี้เมื่อเทียบกับ Phantom 4 Pro แล้วเหมือนจะไม่แตกต่างกันมากนัก แต่หากดูในรายละเอียดกันแล้วก็ถือได้ว่าต่างกันพอสมควร เรามาดูในรีวิวนี้กันนะครับ
การออกแบบและคุณสมบัติของ Phantom 4 Advanced
หากมองผ่านๆแล้วละก็ คุณจะไม่สามารถบอกความแตกต่างระหว่างโดรนทั้ง 3 รุ่นของ Phantom 4 ได้เลย ทั้งหมดดูคล้ายๆกันด้วยสีขาวแวววาว รูปร่างๆป้อมๆเหมือนกันหมด
ตัวกล้อง
แต่หากมองลึกไปถึงสเป็กของกล้องจะพบว่า Phantom 4 Advanced นั้นจะได้กล้องที่มีคุณสมบัติเช่นเดียวกับรุ่น Pro นั้นหมายถึงว่ามันมาพร้อมกับเซ็นเซอร์ขนาด 20 ล้านพิกเซล ที่สามารถถ่ายวิดีโอได้ในระดับ 4K ที่อัตรา 60 เฟรมต่อวินาทีเลยทีเดียว
นอกจากนี้แล้วมันยังมาพร้อมระบบชัดเตอร์แบบแมคคานิคส์ ซึ่งจะช่วยลดการผิดเพี้ยนของภาพหากเทียบกับชัดเตอร์ในระบบอิเลคทรอนิคส์ ในกรณีที่เราถ่ายภาพขณะบินด้วยความเร็วสูง
สำหรับตัวเซ็นเซอร์ที่มีขนาด 1 นิ้วนั้น จะมีขนาดใหญ่กว่าของ Phantom 4 เกือบ 4 เท่าด้วยกัน ด้วยขนาดพิกเซลที่ใหญ่ขึ้นทำให้มันสามารถรับแสงได้มากขึ้น โดยมันจะมีค่า ISO สูงสุดที่ 12800 เลยทำให้เกิดความคมชัดมากขึ้นด้วย
และที่เหมือนกับ Phantom 4 Pro อีกอย่างก็คือ ตัว Phantom 4 Advanced นั้นจะรองรับการเข้ารหัสแบบ H.265 เพื่อให้ได้ไฟล์ที่มีขนาดเล็กลง โดยมันจะสามารถบันทึกภาพได้ทั้งแบบ H.264 หรือ H.265 ที่ความเร็ว 100Mb/s แต่ในระบบการเข้ารหัสแบบเก่าที่ 60 เฟรมต่อวินาทีเท่านั้น
ดังนั้นหากคุณต้องการถ่ายภาพสโลโมชั่นที่ระดับ 4K คุณอาจจะต้องเลือกการเข้ารหัสแบบ H.264 แทน
Phantom 4 Advanced สามารถรองรับ microSD ได้ถึง 128GB ไม่เหมือน Phantom 4 ที่รองรับได้เพียง 64 GB เท่านั้น
ระบบการมองเห็น (Vision System)
ถือเป็นระบบเดียวที่ Phantom 4 Advanced ยังคงเอาคุณสมบัติเดิมๆของ Phantom 4 ธรรมดามา โดยไม่ได้เอาของ Phantom 4 Pro มาใช้งาน
ซึ่งรุ่น Pro จะมีกล้องด้านหลัง แต่สำหรับ Phantom 4 Advanced จะมีเฉพาะกล้องที่มองไปข้างหน้าและกล้องที่มองลงด้านล่างเท่านั้น
อย่างไรก็ตามยังมีส่วนที่เพิ่มเติมเข้ามาอีก 1 อย่างนั่นคือ Phantom 4 Advanced สามารถตรวจจับสิ่งกีดขวางได้ไกลถึง 30 เมตรด้วยกัน ซึ่งถือว่าตรวจจับได้ไกลเป็น 2 เท่าของ Phantom 4
ระยะเวลาในการบิน
ด้วยความจุของแบตเตอร์รี่ที่เพิ่มขึ้นเหมือนรุ่น Phantom 4 Pro ทำให้ทาง DJI อ้างว่า Phantom 4 Advanced สามารถบินได้นานถึง 30 นาทีด้วยกัน จะว่าไปแล้วเป็นการบินได้นานขึ้นเพียง 2 – 3 นาทีเท่านั้นหากเทียบกับ Phantom 4 แต่จะว่าไปแล้วใครเล่าจะไม่ได้อยากได้เวลาบินที่นานขึ้นแม้จะเพิ่มอีกไม่กี่นาทีก็ตาม
ตัวแบตเตอร์รี่จะใช้เวลาในการชาร์ชใหม่ให้เต็มประมาณ 1 ชั่วโมง ด้วยความจุที่ระดับ 5870 mAh น้ำหนักเครื่องจะอยู่ที่ 1.37 กิโลกรัม
ประสิทธิภาพการบิน
ทางเราไม่ได้ลองบินรุ่น Advanced+ จึงไม่สามารถบอกได้ว่าตัวคอนโทรลเลอร์ที่มีการอัพเกรดเพิ่มเติมด้วยหน้าจอที่ฝังอยู่ภายในนั้นเป็นอย่างไร มันจะสะดวกกว่าการใช้มือถือของตัวเองหรือไม่นั้นก็คงต้องรอรีวิวของคนอื่นก็แล้วกันนะครับ ภาพและวิดีโอจะถูกบันทึกลงในแอพโดยอัตโนมัติ ทำให้เราเอามาแชร์ในโลกโซเชี่ยลได้ง่ายขึ้น แต่คุณอาจจะต้องแตะบนรูปตัวอย่างเพื่อดาวน์โหลดภาพความละเอียดสูงมาใช้งาน
ที่แปลกก็คือ เมื่อไม่นานมานี้ทาง DJI ได้เปิดตัวแอพตัวใหม่ชื่อว่า DJI GO 4 โดยแอพ DJI GO ตัวเดิมนั้นจะไม่รองรับกลุ่ม Phantom 4 อีกต่อไป แต่จะยังรองรับ DJI รุ่นอื่นๆย้อนไปจนถึง Phantom 3
ด้วยสายตาของเราแล้วถือว่า DJI GO 4 นั้นแทบไม่ต่างจากของเก่า รู้สึกว่าไม่ได้มีฟังชั่นก์อะไรหรือหน้าตาหน้าจอที่แปลกหรือเพิ่มเติมเข้ามาเลย
รีวิวการบิน DJI Phantom 4 Advanced
ข่าวดีก็คือแอพได้ถูกออกแบบมาอย่างดีทำให้สามารถใช้งานได้ง่าย ดังนั้นหากโดรนตัวนี้เป็นโดรนแรกของคุณ รับรองได้ว่าคุณจะเรียนรู้การบินมันได้อย่างเพลิดเพลินแน่นอน
มันจะบันทึกตำแหน่งที่ขึ้นบินเอาไว้โดยอัตโนมัติหลังจากที่มันสามารถรับสัญญาณจากดาวเทียมบอกตำแหน่งต่างๆได้อย่างเพียงพอ และมันจะบินกลับมายังจุดนี้หากคุณกดปุ่ม Return to Home บนตัวรีโมทค้างไว้ หรือจะแตะไอคอนบนแอพก็ได้
ระบบ Vision ก็จะมีการเปิดใช้งานโดยอัตมัติและจะทำงานทันที เว้นเสียแต่ว่าคุณจะเปลี่ยนค่ามัน
การทำงานของมันก็เหมือนๆกับระบบเซ็นเซอร์ถอยหลังรถยนต์ โดยคุณจะได้ยินเสียงเตือนเมื่อตอนที่มันเริ่มตรวจจับสิ่งกีดขวางได้ และเสียงเตือนจะดังถี่ขึ้นหากคุณเข้าใกล้สิ่งกีดขวางมากขึ้น และสุดท้ายโดรนจะหยุดนิ่งสนิทแม้คุณจะยังคงโยกคันโยกต่อไปก็ตาม
ผมลองทดสอบการบินเข้าหาสิ่งกีดขวางทั้งให้บินเข้าหาตัวผมเองและให้บินเข้าหาต้นไม้ โดยเมื่อเริ่มเจอใบไม้มันก็จะเริ่มทำงานส่งเสียงสัญญาณเตือนทันที แต่อย่าลืมว่ามันอาจจะไม่รับประกันได้ร้อยเปอร์เซ็นว่าจะหลบหลีกสิ่งกีดขวางได้ทุกรูปแบบ แต่อย่างน้อยมันก็สร้างความอุ่นใจได้ในระดับนึงกับการมีระบบหลบหลีกสิ่งกีดขวางของโดรนรุ่นนี้
มันยังสื่อไปได้อีกว่า โอกาสที่เราจะขับโดรนเข้าไปชนกับสิ่งกีดขวางอย่างจังๆก็จะลดน้อยลงสำหรับกรณีที่เรากะระยะความสูงของต้นไม้ผิดพลาดหรือเดาไม่ถูกว่าโดรนบินไปไกลถึงไหนแล้ว
นอกจากเราจะบินโดรนตัวนี้ด้วยความสนุกสนานผ่านการควบคุมเองด้วยมือแล้ว มันจะยังบินในโหมดอัตโนมัติได้อีกหลายโหมดด้วยกันหากคุณต้องการภาพที่ดีที่สุดสำหรับงานของคุณ
แต่การจะใช้งานโหมดการบินอัตโนมัติได้นั้นก็ต้องลากต้องเลื่อนหน้าจอกันเหนื่อยหน่อยถึงจะเจอฟังก์ชั่นที่ต้องการ แต่หากคุณคุ้นชินกันมันแล้วละก็คุณจะพบกับความประทับใจกับภาพที่ได้รับ ดีไม่ดีอาจจะลืมการบินแบบแมนน่วลไปเลยก็ได้เวลาต้องการถ่ายภาพสวยๆ
โหมด ActiveTrack ถือเป็นโหมดการบินที่มีประโยชน์ที่สุดเนื่องจากมันสามารถจับวัตถุที่ต้องการถ่ายให้นิ่งอยู่กลางเฟรมเสมอแม้ว่าวัตถุนั้นจะเคลื่อนที่อยู่ก็ตาม มันใช้งานได้กับคน รถ และแม้แต่สัตว์ต่างๆ และยังมีโหมดเพิ่มมาคือ ติดตาม (trace) บันทึกพฤติกรรม (Profile) และ สร้างจุดสนใจ (Spotlight)
โดยโหมดติดตาม (trace) นั้น โดรนจะบินด้านหน้าหรือหลังของวัตถุและติดตามไปเรื่อยๆ พร้อมๆกับหลบหลีกสิ่งกีดขวางไปในตั้ว (แต่บินถอยหลังไม่มีระบบหลบสิ่งกีดขวางนะครับ ต้องเตือนไว้ก่อน) ส่วนโหมดบันทึกพฤติกรรม (profile) นั้น โดรนจะบินอยู่ด้านข้างที่ระดับความสูงและมุมบินที่แตกต่างกัน เหมาะมากสำหรับการถ่ายคนหรือรถ ส่วนโหมดสร้างจุดสนใจ (spotlight) นั้นกล้องจะจับอยู่ที่วัตถุตลอดเวลา แต่คุณสามารถควบคุมตำแหน่งโดรนได้เองว่าจะให้อยู่จุดใดก็ได้
นอกจากนี้ยังมีโหมด Terrain Follow หรือโหมดบินตามแนวความสูงชันของพื้นที่ นั่นคือโดรนจะรักษาระดับความสูงจากพื้นดินให้คงที่เสมอแล้วบินตามนักปั่นจักรยานไปตามเนินเขาเป็นต้น และโหมด Draw ที่ยอมให้คุณวาดจุดต่างๆตามเส้นทางบนหน้าจอให้โดรนบินไปตามนั้นโดยคงความสูงเอาไว้ที่ระดับเดิม โหมดนี้เหมาะสำหรับการบินไปตามแนวชายฝั่งเนื่องจากคุณสามารถควบคุมให้กล้องหันไปในทิศทางที่คุณต้องการระหว่างการบินหากคุณเลือกแบบ Free (อิสระ) แทนที่จะเลือกแบบ Forward (ไปข้างหน้า)
สำหรับโหมด Tripod นั้นจะทำให้ตัวก้านควบคุมมีความไวในการตอบสนองที่น้อยลง และจะจำกัดความเร็วอยู่ที่ประมาณ 6 – 7 กิโลเมตรต่อชั่วโมงเท่านั้น ดังนั้นคุณสามารถถ่ายภาพได้นิ่งมากขึ้น รวมไปถึงกรณีการบินภายในอาคารอีกด้วย
หากคุณต้องการถ่ายภาพตัวเอง โหมดจดจำท่าทางจะรับรู้ว่าเมื่อคุณยกมือทั้งสองขึ้นไปในอากาศแล้วไฟจะกระพริบเพื่อนับถอยหลัง เลยทำให้คุณสามารถเก๊กท่าทางได้โดยสะดวก
ด้วยราคาของ DJI Phantom 4 Advanced ที่ราคานี้ คุณย่อมมั่นใจได้ถึงคุณภาพของภาพถ่ายและวิดีโอที่ออกมา แต่การที่จะให้ได้ภาพที่คุณภาพสูงสุดคุณอาจจะต้องมีการตั้งค่าลูกเล่นเพิ่มเติมขึ้นอีกเล็กน้อย แล้วค่อยแต่งภาพให้คมชัดขึ้นในตอนหลังผ่านโปรแกรมตัดต่อต่างๆ
ดีหน่อยที่ว่าแอพที่ให้มานั้นสามารถช่วยคุณได้มากในแง่ของการปรับแต่งภาพ ปุ่มด้านหลังของตัวรีโมท จะนำมาซึ่งตัวเลือกต่างๆให้โผล่บนหน้าจอ แล้วคุณก็กดซ้ำๆเพื่อวนเลือกค่าต่างต่างๆจาก ISO ไปจนถึงการชดเชยค่า EV การปรับค่าแสงขาว ความเร็วชัดเตอร์ รวมไปถึงการปรับขนาดหน้ากล้องได้อีกด้วย
ผ่านหน้าจอตั้งค่านั้นคุณสามารถเปิดใช้ histogram ซึ่งสามารถย้ายไปไว้ที่ตำแหน่งใดๆก็ได้บนจอ ตัวช่วยตัวนี้จะช่วยคุณเป็อย่างมาก เนื่องจากการมองแค่หน้าจออย่างเดียวนั้นไม่สามารถบอกได้ว่าภาพที่จะออกมานั้นจะสว่างหรือมืดเกินไปหรือไม่เพราะแสงสะท้อนจากภายนอกที่เข้ามารบกวน
ตัวกล้องเองไม่ได้มีระบบการโฟกัสภาพแบบคงที่เหมือนกล้อง 12 ล้านพิกเซลที่อยู่บน Phantom 4 หรือ Phantom 3 นั่นหมายถึงว่าคุณจะต้องไม่ลืมที่จะแตะหน้าจอเพื่อกำหนดจุดในการโฟกัสภาพ (หลังจากนี้มันจะเป็นออโต้โฟกัส แต่จะเป็นการดีหากคุณกำหนดว่าอยากให้มันโฟกัสเริ่มต้นที่ไหน) ที่ต้องทราบอีกอย่างก็คือตัวเซ็นเซอร์ขนาด 1 นิ้วนี้จะมีมิติของภาพ (aspect ratio) อยู่ที่ 3:2 แทนที่จะเป็น 4:3 ในกรณีของ Phantom 4
จะว่าไปแล้วคุณภาพของภาพที่ได้นั้นถือว่าเป็นการพัฒนาไปอีกขั้นเมื่อเทียบกับ Phantom 4 แต่คงไม่ถึงขึ้นเทียบชั้นกับกล้อง DSLR ได้หรอกนะครับ
บทสรุป
Phantom 4 Advanced ถือเป็นโดรนติดกล้องรุ่นเด็ดอีกรุ่นหนึ่งของ DJI ราคาก็ไม่ใช่ถูกๆ แต่การออกบินนั้นทำได้โดยง่าย และมาพร้อมโหมดการบินต่างๆให้เลือกมากมายซึ่งจะทำให้คุณได้ภาพถ่ายทางอากาศที่น่าดูชม
สำหรับบางคนแล้ว กล้องขนาด 20 ล้านพิกเซลนั้น อาจจะถือว่าคุ้มค่าสำหรับการรอคอยในการเปลี่ยนจาก phantom 3 มาเป็น phantom 4 แต่อย่าลืมว่าการไม่มีระบบหลบหลีกสิ่งกีดขวางด้านหลังเหมือนรุ่น Pro นั้นอาจจะมองว่ามันอาจจะแพงไป สู้เพิ่มเงินอีกหน่อยแล้วเล่น Phanotom 4 Pro จะดีกว่าหรือไม่
ส่วนว่า Phantom 4 Advanced ราคา จะเป็นอย่างไร ในไทยก็เริ่มมีประกาศวางขายกันแล้วนะครับ
รีวิวจาก pcadvisor.co.uk