ความแตกต่างของ DJI Phantom 3 ทั้ง 4 รุ่น
ความแตกต่างของ DJI Phantom 3 ทั้ง 4 รุ่น
สำหรับคนที่กำลังมองหา DJI Phantom 3 อยู่ละก็ มักจะเกิดคำถามว่า จะซื้อ DJI Phantom 3 รุ่นไหนดี เลยอาจจะอยากรู้ว่า DJI Phantom 3 แต่ละตัวต่างกันอย่างไร เพราะตอนนี้ DJI ก็เพิ่งตัวรุ่นใหม่ในกลุ่มนี้เข้ามา ซึ่งก็คือ DJI Phantom 3 4K เลยทำให้ยิ่งมีตัวเลือกมากเข้าไปอีก วันนี้เรามาหาคำตอบกันนะครับ
DJI Phantom 3 นั้นถือว่าเป็นโดรนราคารับปานกลางที่เยี่ยมยอดที่สุดแล้วท้องตลาดในปัจจุบัน พอมีออกมาหลายรุ่นแบบนี้ เราเลยต้องทำความเข้าใจถึงความแตกต่างของแต่ละรุ่นกันก่อน เพื่อจะทำให้สามารถตัดสินใจซื้อหามาง่ายขึ้น
สำหรับราคาทุกรุ่น สำรวจเมื่อกลางเดือน กุมภาพันธ์ 2559
– DJI Phantom 3 Standard 20,200 บาท รวม VAT พร้อมบิน
– DJI Phantom 3 4K 31,500 บาท รวม VAT พร้อมบิน
– DJI Phantom 3 Advanced 31,500 บาท รวม VAT พร้อมบิน
– DJI Phantom 3 Professional 48,400 บาท รวม VAT พร้อมบิน
Phantom 3 Standard
รุ่น Phantom 3 Standard นั้นถือเป็นรุ่นที่มีราคาถูกที่สุดแล้ว เหมาะสำหรับคนงบน้อย ซึ่งการเปิดตัวของรุ่นนี้มาทีหลังรุ่น Advanced และรุ่น Professional เพื่อลดราคาลงมาให้กับลูกค้าอีกกลุ่มที่อาจไม่ต้องการลูกเล่นอะไรมากนัก
สิ่งแรกที่สังเกตเห็นได้ก็คือ วิดีโอที่ได้จากกล้องนั้นไม่ใช่ระดับ 4K แต่มันก็สามารถถ่ายได้สูงสุดที่ 2.7K ซึ่งก็ถือว่าเยี่ยมยอดแล้วสำหรับคนส่วนใหญ่ โดยสัญญาณวิดีโอที่ส่งมายังเครื่องควบคุมนั้นอยู่ที่ 720p นอกจากนี้แล้วเซ็นเซอร์กล้องนั้นจะใช้อันที่ถูกกว่าของ Panasonic แทนที่จะเป็นอันที่ได้รับความนิยมกว่าอย่าง Sony Exmor R ที่ใช้ในกล้อง GoPro Hero 4 แต่คนส่วนใหญ่แล้วจะแยกความแตกต่างไม่ออกหรอกครับ
คุณสมบัติต่อมาที่โตรนรุ่น Standard ขาดไปก็คือระบบบอกตำแหน่งเชิงการไหลของสัญญาณภาพ (optical flow vision positioning system) ระบบนี้อาจจะดูไม่จำเป็นเท่าไหร่ แต่มันคือระบบที่ทำให้ DJI Phantom 3 นั้นแตกต่างจากคู่แข่งในการคงตำแหน่งและการลงจอด
อีกประการหนึ่งของรุ่น Standard ที่อาจจะไม่เห็นชัดเจนนักก็คือมันใช้ตัวคอนโทรลที่ดูเรียบง่ายกว่ารุ่นอื่นๆ จริงๆแล้วคือถอดแบบมาจาก Phantom 2 นั่นหมายถึงว่าคุณจะไม่มีปุ่มควบคุมโดยเฉพาะเช่นการควบคุมหน้ากล้อง การบันทึกวิดีโอ การเล่นวิดีโอ และไม่มีปุ่มที่ปรับแต่งได้เองด้านหลังตัวรีโมทอีกด้วย
ที่สำคัญหากคุณจะใช้ iPad กับรีโมทอันนี้ คงจะต้องหาวิธีติดตั้งที่ยากหน่อย เพราะแคล้มป์ที่ให้มานั้นเล็กไปหน่อย
ดูๆแล้วเหมือนหลายอย่างจะหายไป แต่หากเทียบกับราคาที่ลดลงมาแล้วละก็ อาจจะถือว่าคุ้มค่าสำหรับนักเล่นหน้าใหม่ที่มีงบประมาณจำกัด และไม่ได้ต้องการลูกเล่นอะไรแพรวพราวมากนัก
Phantom 3 4K
ว่ากันชัดๆแล้ว DJI Phantom 3 4K นั้นไม่ใช่ตัวทีดีกว่ารุ่นไหนๆของ DJI Phantom 3 นะครับ ตามที่ผมคิดแล้วอาจจะไม่ถึงกับเป็นตัวรองด้วยซ้ำไป มันมีคุณสมบัติทุกอย่างตามที่ DJI Phantom 3 Standard มี แต่มาพร้อมกล้องที่ถ่ายวิดีโอได้ในระดับ 4K นั่นเอง อีกทั้งมาพร้อมการรองรับ iPad และมีระบบการคงตำแหน่งด้วยภาพ (vision positioning) อีกด้วย
รุ่นนี้เริ่มต้นวางตลาดเมื่อต้นปี 2016 โดยถือเป็น Phantom ที่ราคาถูกที่สุดที่รองรับภาพระดับ 4K ราคาก็อยู่แถวสามหมื่นต้นๆซึ่งถือว่าใช้ได้ ถือเป็นโดรนในระดับ 4K ที่ราคาไม่แพง และมาพร้อมคุณสมบัติเด่นๆของรุ่นที่แพงกว่า มองแล้วเหมือน Phantom 3 4K จะเป็นรุ่นที่เพอร์เฟ็คมาก แต่ก็ยังมีอีกสามอย่างที่ขาดไป ซึ่งจะขอกล่าวถึงต่อไป
Phantom 3 Advanced
หลักๆคือ Phantom 3 Advance จะมีคุณสมบัติทุกอย่างเหมือนรุ่น Phantom 3 4K ยกเว้นกล้องอย่างเดียวที่ไม่ได้เป็น 4K คำถามคือแล้วคุณจะซื้อรุ่นนี้ทำไม
คำถามนี้ถามได้เพราะ DJI เปิดตัวรุ่น Phantom 3 4K มาแล้ว ในเมื่อราคาไม่ต่างกันมากคุณจะซื้อรุ่นนี้ทำไม น่าจะซื้อรุ่น 4K ดีกว่า คำตอบก็คือเนื่องจากรุ่น Advance สามารถบินได้ไกลกว่า เชื่อถือได้มากกว่า และวิดีโอสตรีมมิ่งนั้นมีคุณภาพที่ดีกว่ามาก
เหตุผลหลักของการเพราะว่า DJI Phantom 3 Advanced ใช้เทคโนโลยีที่เรียกว่า Lightbridge ซึ่งถูกนำมาใช้เพื่อให้ได้สัญญาณวิดิโอและสัญญาณการควบคุมที่น่าเชื่อถือมากกว่า
ในสภาวะที่ดีไม่มีสิ่งใดรบกวนมาก ระบบ Lightbridge จะทำให้ Phantom 3 Advanced สามารถบินได้ไกลถึง 5 กิโลเมตรเลยทีเดียว หรือพูดง่ายๆคือบินได้ไกลว่า Phantom 3 4K 4 เท่า บินได้ไกลกว่า Phantom 3 Standard ราว 5 เท่า
อีกอย่างหนึ่งที่ทำให้ DJI Phantom 3 Advanced เสถียรกว่าก็คือมันมีโมดูล GPS ซึ่งจะเชื่อมโยงกับดาวเทียมอเมริกันและรัสเซียในเวลาเดียวกัน นั่นหมายถึงการเพิ่มจำนวนดาวเทียมเป็นสองเท่า ทำให้ระบบ GPS มีความเสถียรเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าด้วย
และสิ่งสุดท้ายที่ทำให้ DJI Phantom 3 Advanced เป็นตัวเลือกที่ดีกว่านั่นคือ Video Streming หากเทียบกับ Phantom 3 4K ที่สตรีมมิ่งที่ 480p ขณะที่รุ่นอื่นๆ ทำได้ 720p ก็ยังงงๆว่าทำไม DJI ลดความละเอียดของการสตรีมมิ่งของรุ่น 4K ลง แต่ถ้าให้เลือกระหว่างรุ่น 4K กับรุ่น Advanced ผมขอเลือกรุ่น Advanced ดีกว่า
Phantom 3 Professional
ที่เหมือนกับรุ่น Phantom 3 Advanced ก็คือ Phantom 3 Professional จะใช้ระบบ Lightbridge ซึ่งมีระบบ GPS ที่ดีกว่า บินได้ไกลเหมือนรุ่น Advanced มาพร้อมสัญญาณวิดีโอสตรีมมิ่งระดับ 720p ถ่ายวิดีโอในระดับ 4K สิ่งที่แตกต่างก็คือมีที่ชาร์ชขนาด 100W มาให้ด้วย ซึ่งสามารถชาร์ชด้วยเวลาน้อยกว่า 1 ชั่วโมง เทียบกับ 1 ชั่วโมง 20 นาทีสำหรับรุ่นอื่นๆ
DJI Phantom 3 Professional ถือเป็นโดรนที่ราคาไม่แพงและคุณสมบัติเด่นที่สุดในกลุ่ม ขนาดก็ไม่ใหญ่มาก พกพาง่าย โดยเฉพาะหากมีชุด backpack ไปด้วย มีเสถียรภาพสูง ซ่อมแซมได้ด้วยตัวเอง แถมยังบินเร็ว
สรุป
ไม่ว่าจะเลือกรุ่นใดรุ่นหนึ่งก็ถือว่าใช้ได้ แต่บางรุ่นอาจจะดีกว่าอีกรุ่นในบางแง่มุม เนื่องจากมีหลายปัจจัยที่เรามองหา บางคนอาจจะอยากได้คุณสมบัตินี้แต่ไม่สนใจคุณสมบัติโน้น บางคนอาจจะมองหารุ่นที่ถูกที่สุดก็พอแล้วเป็นต้น
แต่คุณสมบัติโดยรวมที่ทุกรุ่นมีก็คือความสามารถในการ
– คงตำแหน่งด้วย GPS (GPS position hold)
– ตามตัวคนขับ (Follow me)
– จุดสนใจ (point of interest) บินวน
– waypoint
– course lock
– home lock
– return to home
– วัดกำลังไฟแบตต์แบบ real-time พร้อมประมาณการเวลาบินที่เหลือ
– ระบบคงความนิ่งของภาพและวิดีโอ
– ปรับหน้ากล้องในการถ่ายภาพ
– ฯลฯ
Leave a comment
You must be logged in to post a comment.